วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

หัวใจพระธรรม ขันธ์ 5 ศิล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนขันธ์

(๒๑๐) ธรรมขันธ์ ๕ (กองธรรม, หมวดธรรม, ประมวลธรรมทั้งปวงเข้าเป็นหัวข้อใหญ่ — bodies of doctrine; categories of the Teaching)
๑. สีลขันธ์ (กองศีล, หมวดศีล ประมวลธรรมทั้งหลาย เช่น อปจายนมัย เวยยาวัจจมัย ปาติโมกขสังวร กายสุจริต สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ เป็นต้น — body of morals; virtue category)
๒. สมาธิขันธ์ (กองสมาธิ, หมวดสมาธิ ประมวลธรรมทั้งหลาย เช่น ฉันทะ วิริยะ จิตตะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เป็นต้น — body of concentration; concentration category)
๓. ปัญญาขันธ์ (กองปัญญา, หมวดปัญญา ประมวลธรรมทั้งหลาย เช่น ธัมมวิจยะ วิมังสา ปฏิสัมภิทา สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ เป็นต้น— body of wisdom or insight; understanding category)
๔. วิมุตติขันธ์ (กองวิมุตติ, หมวดวิมุตติ ประมวลธรรมทั้งหลาย เช่น ปหาน วิราคะ วิโมกข์ วิสุทธิ สันติ นิโรธ นิพพาน เป็นต้น — body of deliverance; deliverance category)
๕. วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ (กองวิมุตติญาณทัสสนะ, หมวดธรรมเกี่ยวกับการรู้ การเห็นในวิมุตติ ประมวลธรรมทั้งหลาย เช่น ผลญาณ ปัจจเวกขณญาณ เป็นต้น — body of the knowledge and vision of deliverance; knowing-and-seeing-of-deliverance category)
ธรรมขันธ์ ๔ ข้อต้น เรียกอีกอย่างว่า สาระ ๔ (แก่น, หลักธรรมที่เป็นแกน, หัวใจธรรม — essences)

พุทธคุณโดยพิศดาร (บทสวดคู่ พระอาการวัตตาสูตร)

อิติปิโส ภะคะวา กัมมัฏฐานัง สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะโลกา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะฐะวีธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อาโปธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เตโชธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วาโยธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อากาสะธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิญญาณะธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โลกะธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา จักกะวาฬะธาตุ สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน

อิติปิโส ภะคะวา จาตุมหาราชิกา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ตาวะติงสา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ยามา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ตุสิตา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นิมมานะระตี เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน

อิติปิโส ภะคะวา พรัหมะปะริสัชชา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พรัหมะปะโรหิตา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มหาพรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริตตาภา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัปปะมาณาภา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อาภัสสะรา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะริตตะสุภา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัปปะมาณาสุภา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุภะกิณหะกา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะสัญญิสัตตา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เวหัปผะลา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะวิหา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะตัปปา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุทัสสา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุทัสสี พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะกะนิฏฐะกา พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะ พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิญญานัญจายะตะนะ พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ พรัหมา เทวา สัมมาวิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เนวะสัญญานาสัญญา ยะตะนะ พรัหมา เทวา สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน


อิติปิโส ภะคะวา โสตาปัตติมัคโค สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โสตาปัตติผะโล สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะกิทาคามิมัคโค สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะกิทาคามิผะโล สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนาคามิมัคโค สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะนาคามิผะโล สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัตตะมัคโค สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัตตะผะโล สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน


อิติปิโส ภะคะวา นิพพานัง ปะระมัง สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นะโมเมสัพพะพุทธานัง สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นะโมโพธิมุตตะนัง สัมมาวิชาจะระนะสัมปันโน


อิติปิโส ภะคะวา ตัณหังกะโร นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เมธังกะโล นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สะระนังกะโร นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ทีปังกะโร นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โกญฑัญโญ นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา มังคะโล นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุมะโน นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เรวะโต นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โสภิโต นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อะโนมะทัสสี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะทุโม นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา นาระโท นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปะทุมุตตะโร นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุเมโธ นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุชาโต นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปิยะทัสสี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา อัตถะทัสสี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ธัมมะทัสสี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สิทธัตโถ นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ติสโส นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา ปุสโส นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา วิปัสสี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สิขี นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา เวสสะภู นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา กะกุสันโธ นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โกนาคะมะโน นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา กัสสะโป นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา โคตะโม นามะ ภะคะวา สมาธิปัญญาคุณะสัมปันโน


ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพพุคคะโต อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทธโธ วิชชาจะระนะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
โส อิมัง โลกัง สะเทวะวัง สะมาระกัง สะพรัมะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ โส ภะคะวา จักขุภูโต ญาณะภูโต ธัมมะภูโต ตัสสะทา ปะวัตตา อัสสะ ชะเนนตา อะมะตัสสะ ทาตา ธัมมะสามิ ธัมมะราชา ธังมัง เทเสสิ อาทิกัลยาณัง มัชเฌกัลยาณัง ปะริโยสานะกัลยาณัง สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละ ปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมะจะริยัง ปะกาเสสิ สาธุ โข ปะนะ ตะถารูปา


(พระคาถาสุนทรีวาณี) (หัวใจพระอาการวัตตาสูตร)
มุนินทะ วะทะนัมพุชะคัพภะ สัมภะวะสุนทะรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง

พิธีการแก้ไขกรรม แก้ไขดวง ด้วยตนเอง

อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ให้ทำพิธีในวันพระขึ้น 15 ค่ำ จะดีที่สุด หากไม่ได้ให้ทำในวันที่เราสะดวก หรือวันเกิดของเรา เช่น เกิดวันจันทร์ก็ทำวันจันทร์ แต่งกายให้เหมาะสมตามที่เราพอทำได้ให้สุภาพ ทำด้วยความเคารพจะเห็นผลไว
ทำกลางแจ้งเวลาก่อนเที่ยง
ให้จัดเตรียม
1. พานข้าวตอก(พานใส่ข้าวตอก ข้าวตอกคือเม็ดข้าวเปลือกคั่วให้แตกออก)
2. บายศรีพานพระ 3 ชั้น คือบายศรีสามชั้น 1 พาน
หาไม่ได้ไม่เป็นไร เอาตามกำลังเราอย่าให้เดือดร้อนเพราะทำดี
3. ธูป 30 ดอกสีแดง แทนบารมี 30ทัศ ที่เราทำมา เพื่อบูชาพระรัตนตรัย
4. เทียน 1 คู่ แทนบูชาพระธรรมที่ให้แสงสว่างทางธรรมแก่สรรพสัตว์
5. ดอกไม้ 5 คู่ สีขาว ใส่บนพาน แทนขันธ์ห้า ของเทพ พรหม และเจ้ากรรมนายเวร ที่มาชุมนุมรับทราบ
6. เงิน 7 บาทขึ้นไป บูชาครูบาอาจารย์ที่ท่านมาสงเคราะห์เรา ใส่ลงบนพานดอกไม้ ในข้อ 5

หาโต๊ะใหม่ๆมาสักอัน ให้เอาไว้ใช้เพื่อการมงคลโดยเฉพาะใช้งานนี้ อย่าเอาไปใช้ที่อื่นที่ไม่เหมาะ จะไม่เป็นมงคล จากนั้นเอาผ้าขาวปู ทำพิธีกลางแจ้ง ของทั้งหมดวางบนโต๊ะ

ต้องทำก่อนเที่ยง ไม่เช่นนั้นเทวดาท่านมีกิจไปที่อื่นหมด

7. น้ำเปล่าใส่ในพานสำริดหรือพานสวยๆ สะอาด บางบนโต๊ะ ถ้ามีเหรียญ หรือยันต์ทำน้ำมนต์ของครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เราก็ใส่ลงไปในน้ำด้วย
เมื่อพร้อมแล้ว ให้สมาทานศีล 5 หรือศีลแปด

จากนั้นนะโมฯ 3 จบเพื่อนอบน้อม พระรัตนตรัย

จากนั้นชุมนุมเทวดา เทวดาและพรหมท่านจะลงมาสงเคราะห์เราในการทำพิธี

สัคเค กาเม จะ รูปเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุฯ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตาฯ
ให้น้อมใจเคารพ เทพพรหมท่านจะมาชุมนุม รับทราบและโมทนากรรมกับเรา

จากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย
คำขอขมาพระรัตนตรัย
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
(ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ....
ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ )
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ
พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้
ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ-
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

จากหนังสือสวดมนต์แปล
วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

ขอขมาพระรัตนตรัยเสร็จขอขมาพ่อแม่และบุพการีทั้งหมดของเรา
ให้ว่าภาษาไทยนี่แหละเข้าใจดี

หากลูกเคยทำผิดประการใดต่อพ่อแม่และบรรพชน บูรพบรรพชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อพ่อแม่ในชาตินี้ หรือพ่อแม่ในชาติที่ผ่านๆมาทั้งหมด ด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ลูกขอขมากรรมทั้งหมด ต่อพ่อแม่บรรพชน และบูรพบรรพชนทั้งหมดทุกท่าน

ขอขมาครูบาอาจารย์

หากศิษย์เคยกระทำผิดประการใดต่อครูบาอาจารย์และบูรพาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์บูรพาจารย์ในชาตินี้ หรือทุกๆท่านในชาติที่ผ่านๆมาทั้งหมด ด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ศิษย์ขอขมากรรมทั้งหมด ต่อครูบาอาจารย์และบูรพาจารย์ทั้งหมดทุกท่าน

เมื่อเสร็จแล้วให้ขอขมากรรมต่อ เทพและพรหมทั้งหมด
หากข้าพเจ้าเคยกระทำผิดด้วยประการใดอันเป็นการล่วงเกินต่อ เทพ ทุกพระองค์ พรหมทุกพระองค์ ไม่ว่าจะทำผิดในชาติก่อนทุกชาติที่ผ่านมา และในชาตินี้ ไม่ว่าจะตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ดี ขอทุกพระองค์ท่านได้โปรดอดโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอขมากรรมต่อพระองค์ท่านทุกพระองค์

จากนั้นให้เราอธิษฐานจิตขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหมด เพื่อเขาจะได้ลดโทษ หรืออโหสิกรรมให้เราทั้งหมด

ตั้งจิตอธิษฐานโดย
ขออาราธนาคุณแห่งพระรัตนตรัย พระบรมมหาจักพรรดิ์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ เทพ พรหม ตลอดทั้งผู้มีพระคุณทุกท่าน พระยายมราช และพระแม่ธรณี ได้โปรด ช่วยเป็นสักขีพยาน และนำสัจจะวาจาของข้าพเจ้า (นาย,นาง ,นาวสาว)............................................................... ไปส่งถึงเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหมด จากนั้นกล่าววาจาให้สำรวม โดยกล่าวว่า หากใครเคยล่วงเกินเรา เราขอยกโทษให้ทั้งหมด และหากเราเคยล่วงเกินใคร ท่านผู้ใด เราขออโหสิกรรมจากท่านทั้งหมด ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วย หากท่านยังโกรธแค้น ก็ขอให้ลงโทษสถานเบา จากเบาจงเป็นศูนย์ เราขอโอกาสทำดี ใช้หนี้กรรมให้ท่าน
หากท่านทำให้เราทำกุศลต่อไม่ได้ ท่านจะไม่เกิดประโยชน์ ได้แต่แก้แค้น แต่ไม่ได้กุศลประการใด เราขอโอกาสทำดี และจากนี้จะขอทำตนเป็นคนดีใฝ่ดีตลอดไป โปรดอโหสิ....

จากนั้นให้ขอพรทุกท่านทุกพระองค์ โดยอธิษฐานว่า

ลูกขอ อาราธนาพระอานุภาพ
แห่งพระรัตนตรัย อันประกอบไปด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมแห่งพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุกๆพระองค์ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบ และขอบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ โดยมี............เช่น...(หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค,หลวงปู่ทวด วัดช้างให้,หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ครูบาเจ้าศรีวิชัย โพธิสัตว์กวนอิม พระกษิติโพธิสัตว์คือเราศรัทธาองค์ไหน ขอบารมีท่าน)โดยมีพระศรีอาริยเมตรไตรยเป็นประธานเป็นที่สุด
อีกทั้งบารมีแห่งสมเด็จพระบรมมหาจักพรรดิ์ทุกๆพระองค์ เทพ เทพนารี ทุกๆพระองค์ พรหมทุกๆพระองค์ ตลอดทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา อีกทั้งท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน ทุกพระองค์ได้โปรดปราสาทพรให้ลูก จงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข มีความสุขกายสุขใจ ขอให้ถึงพระนิพพาน หากยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใดขอนับจากวันนี้จงมีแต่ความคล่องตัวในทุกด้านทั้งทางโลกและทางธรรม

แล้วอธิษฐานพ่วงสุดท้ายคือ ลูกขอตั้งใจทำดี เพื่อผลความดีให้ลูกถึงพระนิพพานสิ้นทุกข์ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอให้นับตั้งแต่กาลนี้ไปจงมีแต่ความคล่องตัวทุกๆด้าน ปรารถนาสิ่งใดเป็นพิเศษก็อธิษฐานเอา.......ขอให้เจอคู่แท้ ลูกไม่มีก็ขอท่านเอา ขาดสิ่งไหนขอเอา ลูกที่มาจะเกิดจะเป็นเทพมีบุญญาธิการหนุนพ่อหนุนแม่

ให้อธิษฐานโดยการเปล่งวาจาดังๆด้วย
หากข้าพเจ้ามีคู่ครองที่ติดตามมา แต่อยู่กันคนละภพชาติ ขอให้เราเป็นอิสระต่อกัน ขอยกเลิกกฏสัญญาต่อกัน หากเคยล่วงเกินกันข้าพเจ้าขอขมากรรมจากท่าน หากท่านถูกข้าพเจ้าล่วงเกินข้าพเจ้าก็ขออภัย ข้าพเจ้าขอมีคู่เป็นมนุษย์ปรกติ ขอมีคู่ที่ดีคู่แท้ คู่บารมี คู่สร้างความดี หากท่านยังรักและหวังดีขอให้รักอย่างสัมมาทิฐิช่วยข้าพเจ้าให้พ้นทุกข์ทั้งมวล

ท้ายสุดขอพรทุกๆพระองค์ท่าน คือให้ทุกพระองค์ทำน้ำมนต์ทิพย์ให้

"ขอให้น้ำในขันสำริดมีอานุภาพด้านมงคลทุกประการเทอญ"
น้ำในขันสำริดเป็นน้ำมีอานุภาพ ถ้าป่วยหรือรู้สึกว่าไม่ดี ใบหน้าหมองๆ โดนของ โดนผีทำ ให้ตักน้ำยกขึ้นสาธุใส่หัว แล้วดื่มสักแก้ว ที่เหลือนำไปประพรมตามสถานที่ต่างๆให้ทั่วๆ หรือดื่มเพื่อหนุนธาตุเพิ่มสิริมงคล
ก่อนพรมน้ำทิพย์มนต์นี้ บอกไปดังๆ ใครไม่ถูกกับน้ำมนต์หนีไปก่อนเน้อ เราจะทำสิ่งมงคลในบ้านเรา จากนั้นพรมไปเลย หากผีปีศาจตนไหน อสุรกายตนไหน ดื้อด้าน จะโดนจัดการ น้ำนี้เทพพรหมทั้งหมดช่วยสงเคราะห์เรา มารที่ไหรกล้าหือ เจอดี จะเจอลูกศิษย์ท้าวเวสสุวรรณเพ่นกบาลเอา เราดื่มลงไปสักแก้ว โรคที่เป็นจะทุเลา ของไม่ดีที่แฝงในเราจะถูกขับออก บางคนจะอาเจียน บ้างจะเป็นของแปลกๆ

เมื่อทำครบแล้ว อย่าลืมนะครับ ตั้งใจแล้วกล่าวดังๆไปเลย บุญใดลูกได้ทำแล้ว ขอถวายบูชาพระรัตนตรัย และท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน ทุกพระองค์ที่มาชุมนุมกันแล้ว ณ โอกาสนี้ จากนั้นก็ส่งพระองค์ท่านทุกพระองค์กลับ

"บัดนี้เสร็จพิธีแล้ว ตามอัธยาศัยเถิดพระเจ้าข้า"

หัวหน้าเทวดา หรือองค์ที่ถูกชะตากับเราเป็นพิเศษ ท่านจะตามดูแลช่วยเหลือกิจต่างๆของเราตลอดครับ จะเห็นว่าชีวิตจะดีขึ้นอย่างมาก ภายในไม่กี่เดือน เมื่อมีเหตุอะไรไม่ดี ท่านจะมาบอกมาเตือน อย่าลืมทำบุญอุทิศถึงท่านบ้าง

จากนี้ไปก็ให้ตั้งใจทำดี ไปเรื่อยๆ ทั้งทานศีล ภาวนา ตั้งใจเพื่อพระนิพพาน

ขอให้ญาติธรรมทุกท่าน ที่ใฝ่ดี แต่ยังมีทุกข์ ต้องการพ้นทุกข์ ก็ขอให้พ้นทุกข์กันทุกๆท่าน

โชคลาภ ขอหวย)

เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ผมไม่มีเจตนาสอนให้ใครไปนั่งทำหวย
ผมเพียงแต่เล่าเรื่องราวของประสบการณ์ที่ผมเคยพบเห็น
และเคยทดลองทำมาด้วยตนเองให้ทราบเท่านั้น
ส่วนใครจะคิดอุตริทดลองเลียนแบบทำตามดูนั้น
เป็นสิทธิเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
คืนนั้นผมยังจำได้ดี
หลวงปู่พระสงฆ์ชาวเขมรอายุ ๙๕ ปีเศษ
ท่านบอกให้ผมทำขันห้าขันแปด
ผมตัดใบตอง(ใบกล้วย)ทำเป็นกรวยห้ากรวยและแปดกรวยตามที่ท่านสั่ง
วางแยกกันไว้เป็นสองกองในถาดเดียวกัน
แต่ละกรวยมีดอกไม้ขนาดเล็กหนึ่งดอก เทียนเหลืองขนาดเล็กหนึ่งแท่ง ธูปสั้นหนึ่งอัน
ท่านสั่งให้ผมตักน้ำสะอาดชนิดดื่มกินได้ให้ใส่น้ำจนเกือบเต็มถึงขอบขัน
หลวงปู่ล้างย่ามควานหาก้อนขี้ผึ้งแท้สีน้ำตาลที่ค่อนข้างนุ่มเหนียวคล้ายดินน้ำมัน
มาปั้นห่อหุ้มเส้นด้ายสายสิญจน์ขนาดใหญ่จนกลายเป็นแท่งเทียน
ปากท่านก็สอนผมว่าต้องใช้ขี้ผึ้งแท้สีน้ำตาลเพราะน้ำตาเทียนมันจะเหนียว
เกาะตัวกันแน่นดี
ท่านเอาลวดเส้นใหญ่ยาวประมาณหนึ่งฟุตพาดบนขอบขัน
จุดธูปเทียนบอกกล่าวครูบาอาจารย์แล้วเริ่มสวดมนต์เป็นคาถาเขมร
ท่านมาบอกภายหลังว่าภาษาเขมรนั้นเป็นพระคาถาชุมนุมเทวดาธรรมดา
แต่เป็นภาษาเขมรเท่านั้นใช้ของไทยก็ได้เหมือนกัน
สวดเสร็จท่านก็วางเทียนขี้ผึ้งแท้ที่ท่านปั้นมากับมือวางพาดกับลวด
ที่พาดไว้บนขอบปากขัน
ปลายเทียนอยู่ห่างจากผิวน้ำเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ท่านเริ่มหยิบเทียนขี้ผึ้งมาเสกด้วยพระคาถานี้

,“ ฉิมพะลี จะมะหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ
มะหาลาภัง กะโรตุเม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ
ภะวันตุ สัพพะทา
ฉิมพะลี จะมะหานามัง อินทาพรหมมา จะปูชิตัง
สัพพะลาภัง ประสิทธิเม เถรัสสานุภาเวนะ
สะทาสุขี ปิยังมามะ
สะหัสสะเนโต เทวินโท ทิพย์จักขุง วิโสทายิ
สะหัสสะเนโต เทวินโท ทิพย์จักขุง วิโสทายิ
โลกะวิฑู โลกะวิฑู โลกะวิฑู ”
เสกเทียนจุดวางพาดเสร็จท่านหยิบลูกประคำมาหลับตาเสก
ชักลูกประคำร้อยแปดจบด้วยพระคาถาทำหวย
“ มะอะอุสีวัง อะจุตตัง พะอะระหัง จุตติ
โลกะอิทัง ยะธิระสังฆัง
จุตติ จุตติ ”
เคล็ดลับ ถ้าดูตัวเลขไม่ออกหรือดูไม่ชัด ท่านให้พลิกตัวเลขกลับ
จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนมาก
ถ้าจะทำเป็นพิธีใหญ่(อวดชาวบ้าน)
ท่านกำหนดให้ใช้เครื่องพิธีเครื่องเซ่นสังเวยชุดใหญ่
บายสีปากชามไข่ลูกยอดหนึ่งคู่
เทียนขี้ผึ้งแท้สีน้ำตาลหนักสองบาทมาปั้นหุ้มไส้เทียนด้วยมือตนเอง
จุดธูปเทียนและสวดตามกำลังวันหวยออก
จัดเครื่องเซ่นสรวง กล้วยหวี บุหรี่ซอง เหล้าขวด หมากพลู บุหรี่ ยาเส้น
ผลไม้ ๓-๕-๗ -๙ อย่าง(ตามฐานะ)
แต่ถ้าทำเองตามลำพังจัดพอเป็นพิธีก็ได้
หลวงปู่ท่านว่าท่านเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเลขที่ได้มานั้นมันเป็นเลขบนหรือเลขล่าง
ผมไม่ใช่คนชอบเล่นหวยจึงไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร
แต่ผมกลับสนใจและแปลกใจว่าเพราะเหตุใดเลขที่ได้แต่ละชุดจึงเป็นพวกเดียวกัน
เลขไทยทั้งชุดหรือเลขสากลทั้งชุด
ท่านสอนผมว่า
การวางเทียนพาดลงบนเส้นลวดที่วางพาดบนปากขัน
ต้องวางให้ใกล้ชิดกับผิวน้ำให้มากที่สุด
เพื่อให้ดอกเทียนสามารถเกาะตัวกันได้ง่าย
ดอกเทียนจะได้ไม่ลอยหนีกัน
ทำให้ดอกเทียนไม่สามารถเกาะตัวติดกันได้เหมือนวางห่างผิวน้ำ
ผมนั่งมองดูดอกเทียนสักพัก
น้ำตาเทียนหรือดอกเทียนเริ่มเกาะตัวเชื่อมต่อกันเป็นตัวเลขทีละตัวจนครบสามหลัก
ที่น่าแปลกมากก็คือ
เมื่อดอกเทียนหยดเชื่อมตัวกันเป็นตัวเลขสมบูรณ์แล้วจะขาดลอยหลบไป
เปิดที่ว่างให้ดอกเทียนชุดต่อไปหยดเชื่อมตัวต่อกันเป็นตัวเลขตัวใหม่
ถ้าเลขตัวแรกเป็นเลขไทยตัวต่อไปก็เป็นเลขไทยทั้งสามตัว
แต่ถ้าตัวเลขตัวแรกเป็นเลขสากลตัวต่อไปก็จะเป็นตัวเลขสากลหมดทั้งชุด
เมื่อได้เลขครบสามตัวแล้วหลวงปู่ท่านก็หยุดสวด
หยิบเทียนขี้ผึ้งเล่นนั้นจุ่มลงดับในขันน้ำนั้น
ท่านเล่าว่าเคยมีคนมากราบเท้าวิงวอนขอให้ท่านช่วยทำพิธีให้
แต่ไม่ว่าท่านจะทำกี่ครั้งดอกเทียนก็ไม่ยอมเกาะตัวเชื่อมกันเป็นตัวเลข
ดอกเทียนจะต้องเชื่อมต่อกันแน่นจนสามารถหยิบยกขึ้นมาดูได้เป็นตัวๆ
มิใช่ดอกเทียนเล็กๆลอยมาต่อตัวกันหรือลอยมาเรียงตัวกัน
บางครั้งสวดจนเทียนขี้ผึ้งหมดได้เลขเพียงตัวเดียว
ท่านก็จะหยุดไม่ยอมใช้เทียนอันอื่นทำต่อให้ครบสามตัว
ท่านว่าเจ้าของวิชาท่านให้แค่นี้แหละ
ผลการออกรางวัล
เลขที่ท่านได้ตรงกับเลขท้ายสามตัวล่าง
แต่ผมไม่ได้ซื้อเพราะไม่ชอบเล่นหวยหรือล็อตเตอรี่
ท่านว่าคนทำจะซื้อเองหรือให้คนอื่นซื้อหรือแทงให้ไม่ได้โดยเด็ดขาด
สูตรสีผึ้งแสนเสน่หา
ขี้ผึ้งแท้บริสุทธิ์สีขาวหนึ่งกล่อง
น้ำมันจันทน์(สำหรับผสม)หนึ่งขวดกลม
หัวเชื้อน้ำมันจันทน์หนึ่งขวด
ยอดรัก(ยอดกิ่งต้นรัก)
ยอดหลง(ยอดกิ่งต้นกาหลง)
ยอดนิยม(ยอดกิ่งมะยม)
(สาวอมตะ/สาวสองพันปี)ดอกบานมิรู้โรย
(เจ็ดวัน)กลีบยอดดอกทานตะวันเจ็ดกลีบ
ผงดินสอพองลบจากยันต์แสนเสน่หา
มนต์บ่วงนาคราชมัดใจ
มนต์รักพระพาย
ปลุกเสกวันพระจันทร์เต็มดวงข้างขึ้นสิบห้าค่ำ
ด้วยพระคาถากฤษณะมนต์
“ กฤษณะราคะ ชนะจิตตัง มนุษะยานัง เสพะสุขัง ”
๑๐๘ จบ

อาถรรพณ์รักสลาย
ใบระกำ
ใบจางจืด(จืดจาง)
ใบตองแตก
ใบจาก
ใบเต่าร้าง
ใบเต่าเกลียด
กระทืบยอด
ใบลั่นทม
รากกระจัดกระจาย(กำจัดกำจาย)
บดหรือตำผสมดินเหนียวหรือขี้ผึ้งแท้ปั้นหุ่นชายหญิงหันหลังชนกัน
ใช้หนามระกำแทงอกหุ่นชายทะลุหลังหุ่นหญิง แทงอกหุ่นหญิงทะลุหลังหุ่นชาย
คนชอบกันรักกันหลงกันจะเกลียดชังกันไม่มองหน้ากัน
แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดของจะเข้าตัวใครเห็นใครเกลียดใครเห็นใครชัง
พิธีกันและแก้สารพัดอุบาทอัปมงคลทั้งปวง
(เสนียด/จัญไรอัปมงคล-อุบาทว์/อัปรีย์ จัญไร- อัปมงคล/ไม่เป็นมงคล)
อุบาทว์เกิดทางทิศบูรพา(ทิศตะวันออก)เกิดจากอุบาทว์พระอินทร์
อุบาทว์เกิดทางทิศอาคเนย์(ทิศตะวันออกเฉียงใต้)เกิดจากอุบาทว์พระพระเพลิง
อุบาทว์เกิดทางทิศทักษิณ(ทิศใต้)เกิดจากอุบาทว์พระพญายม
อุบาทว์เกิดทางทิศหรดี(ทิศตะวันตกเฉียงใต้)เกิดจากอุบาทว์พระนารายณ์
อุบาทว์เกิดทางทิศประจิม(ทิศตะวันตก)เกิดจากอุบาทว์พระวรุณ
อุบาทว์เกิดทางทิศพายัพ(ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)เกิดจากอุบาทว์พระพาย
อุบาทว์เกิดทางทิศอุดร(ทิศเหนือ)เกิดจากอุบาทว์พระจันทร์
อุบาทว์เกิดทางทิศอิสาณ(ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)เกิดจากอุบาทว์พระโพสพ
เทพทั้งหลายแสดงปรากฏการณ์ผิดปกติวิสัยของธรรมชาติเพื่อเตือนภัยล่วงหน้า
ให้มนุษย์กันและแก้เสนียดจัญไรและอุบาทว์ทั้งหลายไว้แต่เนิ่นๆ
ปรากฏการณ์ของอุบาทว์พระอินทร์
ฟ้าผ่าลงบนแผ่นดินในพื้นที่ของตน
ผ่า บ้านเรือน สถานที่พักอาศัยหรือสถานที่ทำงาน
ประสาทราชวัง สถานที่ราชการ สถานศักดิ์สิทธิ์
ผ่าศาลพระภูมิ/เจ้าที่ ศาลเทพ ศาลผี ศาลพระพรหม องค์พระ องค์เทวรูป ฯลฯ
ผ่าต้นไม้ใหญ่ คอกสัตว์ ผ่าบานประตูหรือบานหน้าต่าง
ตกช้าง ตกม้า ตกจากแท่นที่ประทับ
ข้าราชการเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ขุนนางผู้ใหญ่ร้อนอกร้อนใจหลบเข้าป่าเข้าดง
นักปราชญ์กัดกันเพราะความเห็นไม่ตรงกัน
สัตว์ป่าพลัดเข้าเมือง สัตว์ตัวเมียขึ้นขี่ตัวผู้
วิธีแก้อาถรรพณ์กันอุบาทว์ปัดเสนียดพระอินทร์
ท่านให้รีบนำกาบกล้วยมาทำบัตรพลีกว้างยาวด้านละคืบ
เอาใบ(ตอง)กล้วยมาเย็บทำเป็นกระทง ๗ ใบ
ใส่ข้าวสุกกุ้งพร่าปลายำ น้ำดื่ม ข้าวตอก ขนมนมเนย
ดอกไม้ธูปเทียน ทำธงกระดาษสีเขียว ๗ ธง
เครื่องหอมแป้งร่ำกระแจะจันทน์น้ำอบไทยดอกไม้พวงมาลัยสด
แผ่นทองเปลวหนึ่งแผ่น
ปั้นช้างพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณด้วยดินเหนียว ดินน้ำมัน ขี้ผึ้ง(อย่างใดอย่างหนึ่ง)
นำสิ่งของทั้งหมดไปตั้งวางหน้าหิ้งบูชา
พระคาถาสวดภาวนากันและแก้เสนียดจัญไรและอุบาทว์พระอินทร์
กล่าวมนต์ชุมนุมเทวดาทั้งบทย่อและบทเต็มพระสูตร
โอม...พระอินทราชาธิราชะ อุปาทะวะตายะเอยยะรา พาหานายะ
ปุระพะทิสะ ฐิตายะ อาคัจฉันตุ ภุญชะติ ขิปปายะ
วิปปะยันตุ สะวาหะ สะวาหายะ สัพพะอุปา ทะวะ
วินาสายะ สัพพะ อันตะรายะ วินาสายะ สุขขะวัทฒะโก โหตุ
อายุวัฒนะ สุขะพลัง อัมมะหากัง รักขันตุ
โอม ปุระวะทิศ อินทะเทวะตา สะหายะ คะณะปะ
ริวารายะ อาคัจฉันตุ ปะริภุญชะตุ สะวาหายะ
โอม สัพพะ อุปาทะวะ วัพพะทุกขา
สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย
สรรพเสนียด สรรพอุบาทว์จัญไร สรรพศัตรู ขอให้วินาสสันติ
อินทะเทวะตา สะทา รักขะตุ สะวาหะ สะวาหายะ
สะวาหะ สะวาหะ สะวาหะ
สวดจบเป่ากระทงเครื่องบัดพลีสามครั้ง
ให้เจ้าภาพนำไปตั้งวางไว้ที่ทางสามแพร่ง
(ถ้าไม่มีทางสามแพร่งให้ใช้เขียนหรือขีดเส้นสามเส้นลงบนพื้นถนนนอกเขตบ้าน
ปลายเส้นทางหนึ่งชี้ไปทางทิศเหนือ
ปลายเส้นทางหนึ่งชี้ไปทางทิศใต้หรือตก
ปลายทางหนึ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก
ให้ตั้งวางเครื่องพิธีตรงจุดที่เส้นทั้งสามมาพบกัน)
ถือเป็นอันเสร็จพิธีกันและแก้เสนียดจัญไร
กันและแก้อุบาทว์พระอินทร์แต่เพียงเท่านี้
คาถาบูชาขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เคล็ดคาถานี้บูชาสำหรับท่านที่เกิดปีต่าง ๆ ทั้ง 12 นักษัตร อันเป็นหัวใจคาถาของทิเบตจารึก เป็นภาษาสันสกฤตมาแต่ครั้งโบราณ โดยให้ตั้งจิตให้สงบระลึกถึงความดี และบุญกุศลที่ได้ประกอบมา แล้วท่องคาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล อธิษฐานขอพรจากท่าน
ท่านที่เกิดในปี ฉลู - มะโรง - มะแม - จอ
คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สวาหะ"
ท่านที่เกิดในปี ขาล - เถาะ
คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม อา ฮูโฮฮัม กษะสะ โอม ชัมภาลา ลาจาเลน ไนเยน สวาหะ"
ท่านที่เกิดในปี มะเส็ง - มะเมีย
คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน ธะนัม เมธิ หะรี ทากินี ชัมภาลา สะมะภารา สวาหะ"
ท่านที่เกิดในปี วอก - ระกา
คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ปัทมะ โกรธะ อรยะ ชัมภาลา หฤทัย หู ผะฏะ"
ท่านที่เกิดในปี กุน - ชวด
คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ "โอม ชัมภะละ ชะเลนทะรา เย สะวาหา โอม อินทะระ ฌิมขัม ภะมะริ สวาหา"
คาถาพระสีวลีเรียกลาภ หรือคาถาพระฉิมพลีเรียกลาภ
ฉิมพลี จะ มะหาเถโร ฉิมพลี จะ มหาเถรัง ลาภลาภัง นิรันตโร ลาภสุโข นะ ชา ลี ติ
ภาวนากี่จบก็ได้ตามใจชอบ
คาถาเสี่ยงเลข
อิติ อรหัง พุทธนิมิตตัง อุปปันนัง โหติ
ใช้เสี่ยงหาเลข ให้ตั้งจิตอธิษฐานดีๆ การภาวนากี่จบก็ได้ก่อนนอน
ภาณเลข
เลขะยันตัง สันตัง อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ
มนต์ภาณเลขนี้ เมื่อต้องการจะดูเลข ท่านให้บริกรรม กี่จบก็ได้ แล้วเลขเบอร์จะมาปรากฏที่จักขุทวาร หรือโสตทวารเราบ้าง ทำจิตให้ว่างเป็นสมาธิ
นิมิตหวย ล๊อตเตอรี่
โอกาสะ โอกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระเลขตัวสำคัญ พระยันต์ตัวสำคัญตั้งแต่สูญ เถิง 99 จงมาเข้าในจักขุทวาร โสตทวาร
ฆานทวาร ชิวหาทวาร กายทวาร มโนทวาร แห่งข้าพเจ้าเทอญ เอ้หิ เอ้หิ เลขขะยันตัง นิมิตตัง อรหัง อรหัง
ให้ภาวนา 3 หรือ 7 จบ หรือตามสบายๆ
ก่อนภาวนาให้ชำระร่างกายให้สะอาดแต่งกายให้เหมาะสม ทำพิธีก่อนเข้านอน จัดเครื่องสักการะ ดอกไม้ ธูป เทียน แล้วชุมนุมเทวดา กล่าวบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล สวดมนต์บทอื่นๆ ตามเราชอบ แล้วจึงภาวนาพระคาถาบทนี้
สำหรับคาถาบูชาพระรอดนั้นที่วัดมหาวันไม่มีตัวพระคาถาแต่ท่านครูบาคำหล้า วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ท่านบอกว่าให้ใช้คาถาพระเจ้าโปรดสัตว์ ท่านว่านำได้บอกให้ญาติโยมนำไปใช้กับพระรอด(วัดพระสิงห์สร้างปี2496)ก็ได้ผลดีคาถามีดังนี้ครับ
นโม3จบ
อิติปิโส ภควา มหากรุณาจิตตัง มหาเตชะวันโต โสลิติ พุทโธ ธัมโม สังโฆ โตโต ปะ กะ ตัง มา นะเมอิ อิทธิจิตตัง หิริพุทโธ นโมพุทธายะ
น้อมระลึกถึงครูบาอาจารย์มีหลวงพ่อปาน หลวงพ่อพระราชพรหมญาณเป็นที่สุด
ว่านะโม 3 จบ
อิทธิ ฤทธิ พุทธนิมิตตัง
ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุด้วยเทอญ
คาถาบูชาหลวงปู่ใหญ่พระครูธรรมเทพโลกอุดร
โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อะภิญญาธะโร
ปะฎิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก
พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรานุสาสะโก
อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อะภินันที คุหาวะนัง
โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต
อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย
ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสี มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ
ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง
โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโล
อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ
สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง
โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโน
โลกุตตะระคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
มะหาเถรานุภาเวนะ สุขัง โสตถีภะวันตุเม
คาถาบูชาพระพรหม(ของหลวงปู่สี วัดสะแกและหลวงพ่อติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์)
ตั้งนะโม 3 จบ
ขอเดชะพระพุทธะคุณนัง พระธรรมะคุณนัง พระสังฆะคุณนัง มาตาปิตาคุณนัง คุรุอาจาริยาคุณนัง จัตุระพักตร์
พรหมาวิหารัง เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ
จัตุระพักตรา จะมหาพรหมา มหิทธิเดชา สัพพะสิเน่หา ประสิทธิเม สัพพะลาภาภะวันตุเม สัพพะอันตรายาวินาสสะ
เมนตุ สัพพะศัตรูวินาศสันติ ปิโยเทวะมนุษานัง ปิโยพรหมานะมุตตะโม ปิโยนาคุสุปัณณานัง ปิณิณทริยังนะมามิหัง นะมัต
โตเทวะพรหมเมหิ นะละเทเวหิสัพพะทา นะทันโตสีหะนาทังโย นันทะวันตัง นะมามิหัง
คาถาบูชาสิงห์ ตะมะทัง ปะกาเสนโต ราชะสีโห ราชะราชา ตะถาอาหะ นะมะพะทะ นะโมพุธายะ
คาถาบูชาปู่ฤาษีสิงห์สมิงพราย(หลวงปู่กาหลง)
นะโม 3จบ ก่อนคับ
ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
ทุติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
ตะติยัมปิ ยะมะหัง ครูอาจาริยัง สะระณัง คะโต อิมินา สักกาเรนะ ตัง ครูอาจาริยัง อภิปูชะยามิ
โอม***จะครอบแผ่นฟ้าแลแผ่นดิน ***จะครอบพระสมุทรแลสายสินธุ์ ***จะครอบพระอินทร์แลพระพรหม
***จะครอบพระยมแลพระกาฬ ***จะครอบท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ***จะครอบทั้งตัว*** ***เป็นลูกปู่สิงห์สมิงพราย
ครูจึงจะใช้ให้ เรียกคุณมนต์ ดลแลจ่ามนต์ แลพญามนต์ อย่าได้ไปไกลจากตัว*** โอมประสิทธิแก่*** สวาหะ
ท่อง 3 จบ
ผ้ายันต์ หลวงพ่อครูบาวัง อาจารย์เพชร ออกปี2511 คำแปลตัวยันต์บนผ้ายันต์มีดังนี้ครับ
อม (โอม) นางกวักนางแกว่งแคว้ง (สำนวนนี้พบในผ้ายันต์เสน่ห์ทั่วไป) แกว่งเอาสาวมาเนิอะนางเนิอะ มาเร็วมารักกัน ร้อยหมื่นตื้อแสนวัน ค็ (ก็) ให้มาหาคู (กู) เนิอนาง หากอยู่ฝาก (ฟาก) ฟ้าค็ให้มาหาคูเนิอนางเนิอะนาง หากอยู่ฝาก (ฟาก) พู (ภู) ค็ให้มาหาคูเนิอนางเนิอะนาง หากอยู่หล่ายแม่น้ำขั้นแสนวังค็ให้แล่นมาหาคูเทิอะเนิอนางเนิอะนาง หากอยู่นอกฟ้าแลแดนแก้วค็ให้มาหาคูเนิอนางเนิอะนาง หากอยู่เวียงจันทน์แลล้านช้างค็ให้มาหาคูแท้เทาะเนิอะนางเนิอะนางหากอยู่ชวา (ชวา, ชว้า - ล้านช้างหรือหลวงพระบาง) แลเสียมราชค็ให้มาหาคูแท้เทาะเนิอะนางเนิอะนาง หากอยู่ปัจฉิม (ประจิม ?) จันทบุรีแลล้านช้าง ค็ให้มาหาคูแท้เทาะเนิอะนางเนิอะนาง หากอยู่ทิสสะหล้าน้ำแลหัวของ (ของ-โขง ดินแดนไทลื้อสิบสองพันนา) ค็ขอให้มาหาคูแท้เทาะเนิอะนางเนิอะนาง หากอยู่เมืองหงสาหลวงแลเมืองไธย (ไทย-ไทยกลาง) แลเมืองภม่า (พม่า) ค็ให้มาหาคูแท้เทาะเนิอะนางเนิอะ โอม พระสิลเนโห โอมปิยะ โอมปิยา มาอยู่อย้อง (อ่าน หย้อง แต่งให้งาม) สองตราบ(อ่าน ถะหลาบ) ข้าง คูเป็นดั่งช้าง ๗ สาน (สาร) ๗ แสน เป็นดั่งวิมาน ๙๗ ห้อง มาอยู่อย้องแห่งตัวคู แท้เทาะเนิอะนางเนิอะ โอม เอหิ เอหิ มามะ เอหิ เอหิ ปิยัง มามะ ... (จากนั้นเป็นคาถาบาลี ลงตามช่องที่ว่างไว้)

ป้าย : ชุมนุมสุดยอดพระคาถา
Dictionary : ชุมนุมสุดยอดพระคาถา
________________________________________

วิธีแก้กรรม (สามารถทำเองได้ด้วยตัวเอง)

1.ผู้ฆ่าสัตว์ใหญ่หรือฆ่าคน โดยเฉพาะการทำแท้ง
ให้ทำบุญโดยการถวายพระพุทธรูปหน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป ผ้าขาวหรือผ้าไตรจีวรพร้อมอาหารถวายเป็นสังฆทาน อธิฐานขอบุญจากพระเจ้าบุญศักดิ์สิทธิ์จะนำพาดวงจิตรไปสู่วิมารบุญหรือเราอาจสร้างพระพุทธรูปหน้าตักตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปอธิฐานไว้เป็นพระพุทธรูปบูชาอโหสิกรรมพิเศษของเราโดยอัญเชิญดวงจิตรมาเป็นเทพารักษ์ประจำองค์พระ
2.ผู้เบียดเยียนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มีผลทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
ควรทำบุญช่วยชีวิตสัตว์ ทำบุญด้วยยารักษาโรค ทำบุญกับโรคพยาบาลหรือด้ายการแพทย์บำรุงพระเถระที่อาพาธ
3.ผู้มีสมบัติพินาศฉิบหายด้วยเหตุต่างๆ
เป็นเพราะเคยทำกรรมชั่วไว้เมื่อชาติบางก่อนให้ทำใจแล้วให้บุญมาแทนที่โดยอธิฐานว่า สมบัติทั้งหลายที่สูญหายไปทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตขอบูชาแต่พระไตรลักษณ์ พระอนิจจัง พระทุกขังพระอนัตตาขอสมบัติทั้งหลายทั้งทางโลกและทางธรรมหลั่งไหลมาเป็นหมื่นเท่าทวีคูณและควรบริจาคทานตามโอกาส
4.บางคนเคยเป็นหนี้สงฆ์ หนี้สินทรัพย์หนี้เวรหนี้กรรมกับผู้หนึ่งผู้ใด
ให้อธิฐานสร้างพระชำระหนี้ให้พระศาสดาอธิฐานถวายชำระหนี้โดยการปิดทองคำแท้ที่องค์พระด้วยตั้งแต่3แผ่นขึ้นไปหรือทั้งองค์ยิ่งดีพร้อมเงินปัจจัยตามศรัทธาเขียนหน้าซองถวายหนี้สงฆ์ หนี้เวรหนี้กรรมขอให้หมดหนี้กันไป
5.ผู้ประสบทุกข์เพราะความรัก
ให้ตั้งใจรักษาศีล ถือบวชตามที่ทำได้ แล้วเจริญปัญญามากๆความรักไม่เคยทำให้ผู้ใดทุกข์ เพียงที่ทุกข์เพราะควารักแบบยึดติดไม่รู้จักปล่อยวางมากกว่า
6.ผู้ประสบทุกข์เรื่องคู่ครอง
ให้จุดเทียน1คู่ อธิฐานจุดธูป5ดอก ถวายดอกกุหลาบสีขาว แดง เหลือง ส้มชมพู(หรือรวมให้ได้5สี)อษิฐานว่าหากมานแม้นมีหนี้เวรหนี้กรรมต่อกันขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกันและให้น้อมจิตระลึกถึงบุญกุศลที่เคยทำร่วมกันเป็นพลังซักนำดวงจิตให้คิดดีต่อกันแล้วอษิฐานแผ่เมตราให้มากๆ
7.ผู้ถูกหลอกลวงเพราะเคยผิดสัจจะวาจา
ให้ตั้งใจรักษาสัจจะในสิ่งที่ดีงามเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นตั้งใจว่าจะสวดมนต์ทุกวันก็ต้องทำให้ได้
8.ผู้มีสติไม่ดีหรือสติบกพร่อง
อาจเพราะชาติก่อนทำกรรมชั่วในเรื่องการเสพของมึนเมาให้งดแล้วเจริญภาวนาเพื่อสร้างพลังสติ

9.ผู้ที่เลี้ยงบุตรหลาน แต่บุตรหลานไม่ได้ดี
ควรแจกหนังสือธรรมะพิมพิ์เผยแพร่ พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ไม่ควรแช่งด่าบุตรหลานให้กล่าวแนะนำสิ่งที่ดีหรือให้ศีลให้พรแทนหากแช่งด่าไว้มากควรไหว้พระสวดมนต์ขอถวนคำแช่งด่าแล้วอษิฐานขอพรในสิ่งที่ดีงามแทน
10.เป็นทุกข์เรื่องบ้านที่อยู่อาศัย
ให้ตั้งขันน้ำที่หน้าองค์พระ เจริญพระคาถาและจุดเทียนทำน้ำพุทธมนต์เวลาดับเทียนให้ตั้งใจดับทุกข์ แล้วต่อด้วยเจริญเมตาพระวิหารอุทิศบุญกุศลให้กับพระภูมิเจ้าที่ เทาดา สรรพสัตว์ทั้งหลายอษิฐานน้ำพระพุทธมนต์ด้วยคาถาอิติปิโสนพเคราะห์หรือคาถาอื่นๆนำไปประพรมให้ทั่วบริเวรบ้านขอให้สิ่งร้ายกับเป็นดี สิ่งดีๆก็ขอให้ดียิ่งขึ้น
11.บางท่านเมื่อถึงวัยเบญจเพศแล้ว โบราณว่าดวงจะไม่ดีต่างๆ
เหตุเพราะดาวโทษทุกข์เสวยอายุเทาวดานพเคราะห์บ้างให้คุณบ้างให้โทษจึงควรบูชาสะเดาะเคราะห์โดยจัดหาเทียนขนาดพอเหมาะแล้วปิดทองคำ อธิฐานเป็นเทียนเสริมสิริมงคลเสริมดวงชะตาชีวิต แล้วแต่งดอกไม้ธูปเทียนจุดภาวนาสวดอิติปิโสนพเคราะห์เต็มสูตรอธิฐานบูชาเทาดาเสวยอายุ เทพนพเคราะหืทุกพระองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาดวงชะตา จิตวิญญาณเคหะสถานบ้านเรือนขอให้สิ่งร้ายกับเป็นดี สิ่งดีๆก็ขอให้ดียิ่งขึ้นทำด้วยความตั้งใจย่อมเกิดผลศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาไปจนหมดเล่มเทียนก็ยิ่งเกิดผลดี

คำขอขมาใหญ่ในชีวิต เพื่อพิชิตดวงธรรม
ท่านแม่บงกช สิทธิพล แดนมหามงคล
ที่พักบำเพ็ญเพื่อสะสมอารมณ์พระนิพพาน
บ้านช่องแคบ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ๗๑๑๕๐
ลูกน้อมเปิดใจไขกรรมออก ลูกขอนอบน้อมพร้อมเทียนเหนือเศียรเกล้า
เพื่อก้มกราบขมา กราบลาโทษ กราบบูชาสักการะ กราบอนุโมทนา กราบสาธุการ แด่
คุณพระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์
คุณพระธรรมเจ้า ทุก ๆ พระองค์
คุณพระอริยสงฆเจ้า ทุก ๆ พระองค์
คุณพระบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์
และผู้มีพระคุณทุก ๆ ท่าน
ลูกทั้งหลายขอน้อมเปิดใจไขกรรมที่ทำมา เพื่อขอขมาใหญ่ในชีวิต
๑. ลูกเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ต่อคุณพระพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ ต่อคุณพระธรรมเจ้า ทุก ๆ พระองค์ ต่อคุณพระอริยสงฆเจ้า ทุก ๆพระองค์ ทั้งเคยล่วงเกินต่อพระภิกษุสงฆ์ พระสมมติสงฆ์ ท่านสามเณร ทั้งแม่ชี แม่พราหมณ์ พ่อพราหมณ์ และนักบวชทั่วโลก ทั้งเจตนาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้
๒. ลูกเคยละเมิดคำสอนโอวาทของบิดามารดาผู้ให้เลือดเนื้อและชีวิต เคยถกเถียงต่อปากต่อคำ อันทำให้พ่อแม่เสียใจ เสียขวัญ เสียน้ำตา เสียกำลังใจ เพราะการกระทำอันผิดแนวของการเป็นลูกที่ดีของท่าน แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้ ซึ่งการทำให้ท่านผิดหวังในตัวลูก เท่ากับเป็นการฆ่าบั่นทอนชีวิตพ่อแม่ทีละน้อย ๆ ซึ่งเป็นบาปมหันต์แท้ อาจเป็นผลให้ผลักต้านกั้นทางพระนิพพาน
๓. ลูกเคยล่วงเกินคุณครูบาอาจารย์ ทั้งผู้เคยมีพระคุณและมีอุปการะคุณ โดยการกระทำตัวผิดทาง ไม่เอาคำสอนโอวาทท่านมาปฏิบัติเสียแรงที่ท่านพร่ำสอนด้วยใจห่วงใย ด้วยใจรักเมตตา ลูกเคยทำลายล้างคำสอนท่านที่หวังดี แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้
๔. ลูกเคยล่วงเกินทุก ๆ ท่านในภูมิจิตแห่งพระนิพพาน ภูมิจิตแห่งพรหมโลก ภูมิจิตแห่งเทวโลกแห่งมนุษย์โลก ภูมิจิตแห่งเดรัจฉานโลก ภูมิจิตแห่งวิญญาณโลก ล่วงเกินต่อปูชนียสถานแดนธรรมในโลก ทั้งเจตนาและมิได้เจตนา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้
๕. ลูกเคยแสดงความหยาบกระด้าง หรือใช้กำลังด้วยโทสะรุนแรงตบตีต่อยชกลูกหลาน หรือสามีภรรยาอย่างขาดสติ ขาดจากคุณค่าของมนุษย์ทำตนดุจเดรัจฉาน ลูกเป็นผู้โง่เขลาเมาหลงในอารมณ์ของตนเอง แต่กาลก่อนถึงวันนี้
๖. ลูกเคยผิดพลาดมัวหมองด่างพร้อยรอยมลทินในศีลกาย ศีลวาจา ศีลใจ ทั้งผิดสัจจะที่ตั้งใจ บางข้อบางประการ บางโอกาส แต่กาลก่อนถึงวันนี้
๗. ลูกเคยแสดงออกทางสายตาใบหน้าว่าโกรธเคืองอาฆาตพยาบาท ทั้งเคยสาปแช่งจองเวร ทั้งอิจฉาริษยา ทั้งนินทาใส่ร้ายผู้อื่น และเคยปั้นโยนความผิดให้ผู้อื่นโดยไม่เป็นความจริงเลยแต่กาลก่อนถึงวันนี้
๘. ลูกเคยแสดงความไม่บริสุทธิ์ทางกาย วาจา ใจ ต่อผู้อื่น ทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่กาลก่อนถึงวันนี้
๙. ลูกเคยแสดงอาการกระทบกระแทกใส่หมู่คณะ หรือผู้อยู่ในครัวเรือนโดยเจตนาจากโทสะ โมหะ อันผิดทาง แต่กาลก่อนจนถึงวันนี้
ลูกนอบน้อมขอขมาใหญ่ในชีวิต
วันนี้ลูกทั้งหลายขอนอบน้อมโอบอุ้มเทียนทิพย์ เทียนมหามงคล เทียนทอง เทียนมหากุศล เทียนธรรม ดับทุกข์ทั้งสิ้น เพื่อกราบขอขมา กราบลาโทษทั้งปวง
ลูกทั้งหลายขอนอบน้อมก้มกราบฝ่าพระบาทพระศาสดาทุก ๆ พระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดรับรู้เป็นสักขีพยาน เป็นพระประธานในการน้อมใจขอขมาใหญ่ในชีวิตลูกเถิด
ขอเดชแห่งคุณพระ พร้อมทั้งพลังมหาบารมีของโลก พร้อมทั้งพลังบารมีของลูก ๆ ที่ร่วมใจบำเพ็ญบารมีวันนี้ จงเกิดอานุภาพ ให้กายลูกเกิดใหม่ ได้มีกายเป็นธรรมมหากุศล วาจาลูกเกิดใหม่ ได้มีวาจาเป็นธรรมมหามงคลแด่ตนและผู้อื่น ได้ดวงจิตที่เกิดใหม่ได้ดวงใจที่เป็นทิพย์ในธรรมตลอดกาล
พระพุทธบิดาเจ้าขา ลูก ๆ ทั้งหลายได้สำนึกตรึกเห็นชัด ในความผิดพลาดบกพร่องมัวหมองของตนเอง พร้อมทั้งเริ่มเข้าใจในพุทธโอวาทของพระพุทธบิดาว่า 'การกระทำแสดงออกทางกาย วาจา ใจ ๓ ประการ ของตน ไม่ว่าจะแสดงออกทางชั่วหรือดี มีคุณหรือให้โทษมากน้อยสักปานใด เจตนาอกุศลหรือมหากุศล นั่นคือผลตนเองจะได้รับเสวยเองทุกประการ ไม่ใช่ผู้อื่นเป็นผู้รับผลตนเอง จะได้รับเต็มบริบูรณ์ทุกประการ รับเสวยเองตลอดกัป ตลอดกาล'
เมื่อลูก ๆ ทั้งหลายเริ่มเกิดแสงสว่างแห่งธรรมอันดุจดวงประทีปแก้วมณีโชติ ได้รุ่งโรจน์ในกายวาจาใจลูกพอควร ลูกได้พิจารณาถึงตนเอง เด่นชัดในความมั่วคิดชั่วร้าย เห็นแจ้งชัดในความผิดพลาดบกพร่องมัวหมองทั้งปวง
ลูกได้กล่าวระบายความในใจไขกรรมออก บอกมหาชนคนทั้งหลายทั่วฟ้าดิน ลูกทั้งหลายเกรงกลัวต่อบาปกรรมอันนำตนสู่ทะเลเพลิงที่ทุกข์ทรมานแสนนานเป็นล้านกัป จะหาสุขสมหวังไม่ได้เลย เพราะได้เคยสร้างอกุศลมลทินโทษดังกล่าวแล้ว โดยหลงผิดคิดว่าตนเป็นคนเก่ง คนดีมีอำนาจ การแสดงออกดังกล่าวเป็นการแสดงออกถึงความมืดบอดโง่เขลาเบาปัญญาอย่างน่าสลดแท้ เป็นการลดค่า ไร้ค่าของการเป็นมนุษย์อย่างยิ่ง ข้อสำคัญเป็นการล่วงเกินอย่างรุนแรงมหันต์ต่อพระพุทธองค์เพราะไม่เคารพเชื่อฟังในพุทธโอวาท คำสอนอันเปี่ยมล้นด้วยพระมหาเมตตาอันบริสุทธิ์ที่ทรงมีอานุภาพกว้างใหญ่มหาศาลอย่างไม่มีประมาณ มิได้เอาแต่สุขส่วนพระองค์เอง เสียสละพลีชีพเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ทั้งโลกด้วยชีวิตของพระองค์เองโดยแท้ปานนั้น ลูก ๆ ทั้งหลายยังมองไม่ค่อยเห็น ถึงคุณค่าอันมหาศาลของพระองค์ที่ทรงพระเมตตาวางแนวธรรมให้พ้นทุกข์หนีภัยทั้งปวงไว้ให้ลูก ๆ ด้วยน้ำพระทัยใสบริสุทธิ์ พระองค์ให้ด้วยชีวิตให้ด้วยจิตใจ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจากลูก ๆ เลย เมื่อพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ แม้พระองค์จะมีวัยชราภาพถึง ๘๐ พระชันษา พระองค์ยังทรงเสด็จพระราชดำเนินโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายด้วยเท้าเปล่าตลอดสาย และยังทรงอุทิศชีวิตโปรดสาวกจนลมปราณสุดท้าย พระองค์ทรงให้ความสงบ สะอาด สว่าง แด่โลกและมหาชนทั่วโลก น้ำพระทัยของพระองค์ดุจห้วงมหรรณพโดยแท้ ลูก ๆ ทั้งหลายขอถึงฝ่าพระบาทของพระองค์ด้วยเศียรเกล้าตลอดกาลเทอญ
คำถอนอธิษฐานที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ
อิมัง มิจฉา อะธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉา อะธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ตะติยัมปิ อิมัง มิจฉา อะธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน ถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้น ถึงพร้อมแล้ว ด้วยกิเลส ด้วยตัณหา ด้วยอุปาทาน ด้วยราคะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฏฐิ เป็นไปเพื่อความพยาบาทเบียดเบียน สร้างเวรสร้างกรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยวินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
ข้าพเจ้าขออ้างเอาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยาน ว่าข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานเหล่านั้น ถอนคำสาปเหล่านั้น ถอนคำแช่งเหล่านั้น ร้อยหน พันหน หมื่นหน แสนหน ล้านหน โกฏิหน ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเทอญ
นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน
นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน ยะคลอน
ถอนด้วย นะ โม พุท ธา ยะ
ข้าพเจ้าขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัย ในความบกพร่อง ผิดพลาด ของสรรพสัตว์ ทั้งหลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิตวิญญาณ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อเทอญ

พระชุมพล พลปญโญ

โดยพระชุมพล พลปญโญ (๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๔)
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระสาวกทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ พระพรหมทุกพระองค์เทวดาทุกองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน จงมาสถิตอยู่เหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์จงทุกประการเทอญ
บุญกุศลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี และที่จะบำเพ็ญไปจนกว่าที่จะถึงซึ่งพระนิพพานก็ดีที่จะให้ผลแก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนั้นให้แก่จิตวิญญาณทุกดวง ทั้งหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ขอให้ท่านทั้งหลาย จงได้อนุโมทนาในกุศลนั้น และจงพลันบังเกิดเป็นเครื่องสักการะ บรรณาการ อันเป็นทิพย์ ที่ท่านยินดีพอใจเป็นร้อยเท่าพันทวีที่ท่านต้องการ ขอให้ท่านจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธรรมสาร สมบัติ พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล ด้วยลาภ ยศ สุข สรรเสริญ และอธิบดีอันเป็นทิพย์ยิ่งยิ่งขึ้นไป ท่านคิดปรารถนาสิ่งใด ขอจงได้สำเร็จสมความปรารถนา ทุกสิ่งทุกประการตลอดเวลา ขอให้ท่านจงสถิตอยู่ในฐานะบิดา- มารดา ช่วยบำรุงรักษาข้าพเจ้าซึ่งอยู่ในฐานะลูกสาว-ลูกชาย ให้ปราศจากภัยอันตรายที่จะมาแผ้วพาน ขอให้เจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่งทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ
อนึ่งบุญใดที่ท่านทั้งหลายได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติ ข้าพเจ้าขออนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้าจงมีส่วนแห่งบุญนั้นจงทุกประการเทอญ
สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านทั้งหลาย ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าขอขมา ขอท่านทั้งหลายจงโปรดเมตตายกโทษ อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายได้เคยล่วงเกินแก่ข้าพเจ้ามาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ข้าพเจ้าขอยกโทษอโหสิกรรมให้ท่านทั้งหมดทั้งสิ้น
ขอท่านทั้งหลายจงช่วยเสริมพลังบารมีแก่ข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าคิดจะประกอบกิจการอันใด ที่ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้พลันสำเร็จเป็นอัศจรรย์เหนือมนุษย์ทั้งปวงด้วยเทอญ
ขออันเชิญพระศรีอาริย์ เจ้าแม่กวนอิม พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ พระอรหันต์จี้กง เซียนทั้งแปด พระอิศวร พระนารายณ์ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาล ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย นายนิริยบาลทั้งหลายท่านผู้มีตาทิพย์ หูทิพย์ ใจทิพย์ทั้งหลาย ท่านผู้มีวิชา อภิญญาปฏิสัมภิทาทั้งหลาย จงมารับเอาส่วนกุศล และเป็นพยานในการสร้างกุศลและอุทิศส่วนกุศล พร้อมทั้งนำข่าวอธิษฐานของข้าพเจ้า ไปบอกกล่าวแก่สรรพสัตว์ให้รู้ทั่วหน้ากันทุกภูมิทุกชั้น และช่วยทำคำอธิษฐานนั้นให้เป็นจริงด้วยเทอญ
ใบคำแผ่บารมีกุศลมหาอธิษฐานนี้ พิมพ์เพื่อเป็นธรรมทานถวายอุทิศส่วนกุศลให้กับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระโพธิ์สัตว์ เจ้าแม่กวนอิม สมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ ทวยเทพทั้งหลาย
พระสยามเทวธิราช ทุกระดับชั้น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครูบาอาจารย์ทุกหนทุกแห่ง เพื่อน ศาลาสัตว์ทั้งหลาย
วิญญาณทั้งหลาย เจ้ากรรม นายเวรทั้งหลาย ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ


2009-11-10 12:03:27
คำอธิษฐานจิตก่อนสวดมนต์

ด้วยเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ...... ( ชื่อและนามสกุล ) ......
ขอบูชาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณพระ
อรหันต์เจ้า คุณพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ที่สำเร็จไปแล้ว มากกว่าเมล็ด
ทรายในท้องมหาสมุทรทั้งสี่ ตลอดจนเบื้องสูงทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน
คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง
หลาย เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าบ้านเจ้าเรือน ตลอดจนทุกท่าน
ที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขอเอาธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ ที่
บิดาและมารดาได้ปรุงแต่งให้ข้าพเจ้า เบื้องสูงสุดปลายเส้นผม ลงมาเบื้อง
ต่ำถึงกลางฝ่าเท้า เบื้องต่ำจากกลางฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงปลายเส้นผม
เนื้อ หนัง เส้นเอ็น กระดูก ตลอดจนหนังกำพร้า ขออธิษฐานเป็น
กำแพงแก้ว ๗ ชั้น ป้องกันมาร ในระหว่างที่ข้าพระพุทธเจ้าสร้างบารมี
เพื่อความรู้แจ้งแทงตลอด ในอรรถ ในธรรมของพระพุทธองค์ ท่านทั้ง
หลายที่เป็นมาร ข้าพระพุทธเจ้าขอให้ถอยออกไปร้อยโยชน์แสนโยชน์
อย่ามาเป็นมารแก่ข้าพระพุทธเจ้าเลย ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสังขารนี้
เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ข้าพระพุทธเจ้าจะสร้างบารมี ตาม
รอยพระบาทของพระพุทธองค์ ตั้งแต่ปัจจุบันนี้จนถึงพระนิพพานข้างหน้า
แม้นสังขารของข้าพระพุทธเจ้าจะแตกดับไป ด้วยอำนาจของอิทธิฤทธิ์
ขอให้ดวงจิตและดวงวิญญาณของข้าพระพุทธเจ้า เข้าสู่พระนิพพานทันที
ขออำนาจของบุญฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงปกป้องคุ้มครองรักษา ให้ข้า
พระพุทธเจ้าจงพ้นและชนะมาร ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าทำกิจได้สำเร็จทุก
ประการ สมดังคำอธิษฐาน ให้บรรลุถึงพระนิพพานในกาลปัจจุบัน ใน
อนาคตกาลเบื้องหน้า และเบื้องโน้นด้วยเทอญฯ .......
สาธุ ...... สาธุ ...... สาธุ ......
คำอธิษฐานจิต
คำอธิษฐานจิตผูกติดกับพระพุทธศาสนาแน่นหนาไม่มีประมาณ
อิริยาบททั้งสี่สำหรับวันหนึ่งคืนหนึ่งต้องแบ่งเวลาออกใช้เป็นข้อวัตรส่วนตัว อธิษฐานจิตในใจให้ดี ออกปากเสียงเบาๆ ก็ดี ก่อนนอนตอนสี่ทุ่มก็ดี ตื่นนอนตอนตีสามก็ดี หรือเดินจงกรมตอนแรกก็ดี หรือก่อนภาวนานั่งตอนแรกก็ดี แล้วแต่เห็นว่าเหมาะสมโอกาสเวลาของตนที่จะแบ่งไว้ใช้ให้นึกและว่าดังนี้
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย ขอขมาโทษต่อพุทธัมสงฆ์ด้วยกาย วาจา ใจ อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณเพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดกราบเท้าทูลถวายชีวิตจิตใจวาจา ปฏิบัติบูชาต่อพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย สกลกาย สกลวาจา สกลใจ เป็นสรรพมนุษย์สมบัติ เป็นสรรพสวรรค์สมบัติ เป็นสรรพพรหมสมบัติ เป็นสรรพนิพพานสมบัติ กราบเท้าทูลถวายพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย สกลกาย สกลวาจา สกลใจ เป็นสรรพข้า เป็นสรรพทาสพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกับสิ่งที่มีวิญญาณครองสิงอยู่ในสรรพไตรโลกธาตุทุกถ้วนหน้า ขอปราศจากสรรพเวรสรรพภัยแก่กันและกันเสมอภาคเหมือนหน้ากลองโดยมิได้ลำเอียงเลย และจงได้รับส่วนกุศลของข้าพเจ้าผูกขาดจองขาดอยู่ทุกเมื่อไม่มีประมาณจะพ้นจากกองทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงทุกถ้วนหน้า เทอญ ฯ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรมอันใดที่เป็นธรรมอันหลุดพ้น ไม่กลับกลอกไม่เหลือเศษ ข้าพเจ้าก็ดี บรรดาท่านผู้เคารพรักปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาเพื่อหลุดเพื่อพ้นโดยด่วนในปัจจุบันชาติก็ดี จงหลุดพ้นจากอาสวะโดยเด็ดขาด ไม่มีเชื้อเหลืออยู่ทุกเมื่อเทอญ
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต

คำอธิษฐานเมื่อออกรถและเดินทางไกล โดย พระชุมพล พลปญฺโ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๙

สาธุ พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์จงทุกประการเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระสาวกทุกองค์ พระโพธิสัตว์ทุกองค์ พรหมทุกองค์ เทวดาทุกองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน จงโปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ให้สะดวกปลอดภัยปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่พระศรีอาริย์ เจ้าแม่กวนอิม ท้าวสักกะเทวราช ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ท่านจงอนุโมทนาและจงโปรดเมตตาส่งเทวดาที่เป็นสัมมาทิฏฐิมาคุ้มครองรักษารถคันนี้ด้วยเทอญ
เทวดาองค์ใดที่โปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ในตอนนี้ก็ดี หรือที่จะมีเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ในโอกาสกาลต่อไปข้างหน้าก็ดี ข้าพเจ้าขอตั้งคำอธิษฐานจิตไว้ว่าขอให้ท่านได้มีส่วนในบุญกุศลทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้เคยบำเพ็ญมา ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติจงทุกประการด้วยเทอญ และขอให้ท่านจงโปรดเมตตาคุ้มครองรักษารถคันนี้และผู้โดยสารให้ปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง คิดประกอบกิจการอันใด ขอให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ด้วยเหตุแห่งบุญบารมีของท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตาบันดาลให้เป็นไปในกาลทุกเมื่อด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่จิตวิญญาณตลอดรายทางที่ข้าพเจ้าขับรถคันนี้ผ่านไป ขอให้ท่านจงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วจงทุกประการ และขอให้ท่านจงคุ้มครองรักษาปกป้องคุ้มกันภัยให้แก่รถคันนี้ให้ปราศจากอุปสรรคเภทภัยที่จะมาเบียดเบียนบีทาในตลอดทุกเส้นทางที่ขับผ่านไปในกาลทุกเมื่อด้วยเทอญ
พุทธัง ปสิทธิ ธัมมัง ปสิทธิ สังฆัง ปสิทธิ
ขอบารมี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า ประสิทธิให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้านี้สำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนาจงทุกประการเทอญ สาธุ
คำอธิษฐานเวลาทำบุญ
ขอบุญจาก............ธรรมทาน, สังฆทาน, วิหารทาน ...นี้ จงถึงแก่
เจ้ากรรมนายเวร และผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวที่มีมาถึงตัวทุกภพทุกภูมิ
ขอบุญนี้...จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
หากไม่ถึงเพียงใด ขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า
ขอให้เกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ลึกซึ้ง ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ
ขอท่านพระยมราชจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ
คำขอขมาและอธิฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนนอน
ตั้งนะโม 3 จบ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเมทันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระอรหันต์ทุกพระองค์
พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวรจะด้วย กาย วาจา ใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตนมา ขออนุญาต มีคู่มีครอบครัวเหมือนคนปกติทั่วไป
ขอถอนคำอธิฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู๋ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาล ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้า
และครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ
สุขะ พละ ลาภยศ สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และ ทางธรรม
ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคนสร้างเวรกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าชาติภพใดก็ตาม ข้าพเจ้า ยินดี อโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาตทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปคำแช่ง ของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทางโลก และทางธรรมเทอญ
คำอธิษฐานเสริมดวง
คำอธิษฐานในการปล่อยปลา ปล่อยเต่า หรือสัตว์น้ำควรจะซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า จะดีที่สุดก่อนที่จะปล่อยให้เอาน้ำมา 1ถ้วยเทลงไปในถังที่ใส่สัตว์ที่จะปล่อย แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า
ข้าพเจ้าชื่อ...........นามสกุล..........เกิดวันที่......เดือน......พ.ศ......อายุ ....ปี ได้ปล่อยสัตว์......จำนวน....ตัว ขอปล่อยท่านทั้งหลายให้เป็นอิสระ ข้าพเจ้าให้ชีวิตแก่ท่าน
ข้าพเจ้าได้ให้ความเป็นอิสระแก่ท่าน ข้าพเจ้าช่วยท่านให้พ้นจากความทุกข์เดือดร้อน พ้นจาการถูกเขาประหาร ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำให้แก่ท่านในครั้งนี้ จงเป็นเครื่องอโหสิแก่กัน อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองต่อไป ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อข้าพเจ้าปล่อยท่านเป็นอิสระแล้ว
จงไปบอกพวกของท่านที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ ถึงส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ แล้วขออุทิศกุศลทั้งหมดที่ทำไปแล้วให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงเป็นผู้พ้นทุกข์จากความเดือดร้อนทั้งปวง และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด...
ผู้ที่ต้องการกุศลปล่อยสัตว์นั้น ควรพิจารณาด้วยว่าสัตว์นั้นๆ จะมีชีวิตอยู่รอดได้หรือไม่ในสถานที่ที่ท่านตั้งใจนำสัตว์เหล่านั้นมาปล่อย.......................
คำอธิษฐานปล่อยสัตว์
ข้าพเจ้าชื่อ...........นามสกุล..........เกิดวันที่......เดือน......พ.ศ......อายุ ....ปี ได้ปล่อยสัตว์......จำนวน....ตัว ปล่อยเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเอง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ศัตรู และเจ้ากรรมนายเวร ตัวที่เป็นที่พึ่งขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ข้าพเจ้า ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร
จงนำเอาสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร ออกไปจากตัวข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ขอให้แม่พระธรณี พระแม่คงคา เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย
จงเป็นสักขีพยานรับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย ด้วยอำนาจขอกุศลผลบุญครั้งนี้
จงสะเดาะเคราะห์ร้าย ของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตสดชื่น สุขสดใส ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ..
ผู้ที่ต้องการกุศลปล่อยสัตว์นั้น ควรพิจารณาด้วยว่าสัตว์นั้นๆ จะมีชีวิตอยู่รอดได้หรือไม่ในสถานที่ที่ท่านตั้งใจนำสัตว์เหล่านั้นมาปล่อย...
คำอธิษฐานจบทานเวลาทำบุญ
อิมัง เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ
ขอทานนี้จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สิ้นอาสวะกิเลส
อิมัง เม ทานัง นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ
ขอทานนี้จงป็นปัจจัย ให้แก่ข้าพเจ้าได้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาตินี้
ขอให้ได้มนุษย์สมบัติ ขอให้ได้สรรคสมบัติ
ขอให้ได้นิพพานสมบัติ จะนึกประสงค็สิ่งใด
ขอจงสมความปรารถนาทุกประการ
อันว่าโรคภัยไข้เจ็บความยากจนค่นแค้น และคำ ไม่มี ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้ประสบเลย..
คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำให้แก่ผู้ใดในชาติใดๆก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรรมให้ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย
แม้แต่กรรมใดที่ใครๆ ทำข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานครั้งนี้
ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงษาคณาญาติและผู้อุปการะคุณของข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ ปฏิบัติ แต่สิ่งดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ..
คำอธิษฐานขอพร
ข้าแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอน้อมอัญเชิญเทพยดาเจ้าทั้งหลาย
โปรดเสด็จมาฟังการสวดมนต์ของข้าพเจ้า ขออนุโมทนา และประสิทธิ์ประสาทพรให้ข้าพเจ้า...ด้วยเทอญ
ให้ตั้งนะโม 3 จบ และมนัสการพระรัตนตรัย พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน..
ขอพระองค์ทั้งหลาย จงประทานพรให้ข้าพเจ้า..พ้นจากสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร
จงพ้นจากตัวข้าพเจ้า..ด้วยเทอญ ...สาธุ
คาถาบูชาพญานาค
นะโมฯ 3 จบ
นะติตัง พญามะ นาคายะ อภินัง นาคา สาธุโนภันเต ยะมะ ยะมะ
บทระลึกถึงคุณสมเด็จพระพุทธองค์ศรีอริยเมตไตรย์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โนโนโน นะโมพุทธายะ
อิกะวิติ พุทธะสังมิ อะระหังพุทโธ อะระหังธัมโม อะระหังสังโฆ
พุทโธอะระหัง ธัมโมอะระหัง สังโฆอะระหัง อะทิกะอะ ทะอะกะอิ ติฆะอะฆะ วันทามิ อาจาริโย จะมะหาเถโร เทวะปูชิโต
โอมมะณีมาณี ปัตเตฮุงหิริ โอมวัชระศัตระโฮม ( ๙ จบ )

(กราบแบบ นิ้วโป้งข้างซ้าย แตะ นิ้วนางข้างขวา แล้วกราบแบบคนจีน คำนับลงกับพื้น ๑๐๙ ครั้ง )



วิธีการเห็นผี
จากส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ คือ การภาวนาคาถา 4 คำ ซึ่ง 4 คำนั้น คือคำว่าอะไรบ้าง ไม่รู้สิ อิอิ...
แต่จากประสปการณ์ช่วงที่ผมบวช ผมเคยทำดังนี้ คือ
ภาวนา นะ มะ พะ ธะ มันทั้งวัน พยายามจับภาพพระให้ได้ทั้งวัน และเมื่อมีกิจนิมนต์หรือเวลาอยากจะเห็นอะไรบางอย่างเพื่อพิสูจน์ความสงสัยส่วนตัว จะอธิษฐานว่า "ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่วยขัดเกลาจิตลูกให้สะอาดแจ่มใส่ที่สุด ให้ปราศจากกิเลศเครื่องเศร้าหมองจิต ให้ลูกมีทิพย์จักขุญาณที่สว่างชัดเจนแจ่มใส เห็นทุกอย่างได้ตามความเป้นจริงด้วยเถิด สาธุ"
ผลที่ได้จากการทำแบบนี้คือ หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ จะเห็นผีตายโหงตัวหนึ่งซึ่งก่อนตายเคยเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แกมาดักรอไหว้ผมทุกเช้าเลย ก่อนฉันมื้อเช้า เห็นเทพเทวดากับวิญญานจำนวนหนึ่ง มาคอยโมทนาบุญ เต็มศาลาไปหมด บางทีตอนฉันเพลก็เห็น เวลามีกิจนิมนต์ ฃ่วงชุมนุมเทวดา เห็นพรหมณ์ เทวดา ทยอยมากันเรื่อยๆ ที่มากกว่านั้น มีครั้งหนึ่ง พอขึ้นพาหุง เห็นชัดเจนมาก คือ บันไดแก้วพาดลงมาสว่างวาบตอนทำน้ำพระพุทธมนต์ เห็นจะๆเลย ลอยอยู่เหนือขันน้ำมันต์ ใส่ชะฎาซะด้วย และอื่นๆอีกมากมาย
คำอธิษฐาน
คำตั้งจิต อธิษฐาน ในวันนี้
ขอมุ่งมั่น ทำความดี สร้างกุศล
สร้างเป็นทุน หนุนนำไว้ ไม่อับจน
เพื่อหลุดพ้น เกิดแก่ และเจ็บตาย
ขออย่าให้ ข้าพเจ้า ใจเศร้าหมอง
อย่ามุ่งปอง เอาความ ตามให้ร้าย
อย่าทำตัว คิดเพียงแค่ เห็นแก่ได้
จงเข้าใจ พร้อมอภัย ให้เกียรติกัน
ขอให้มี ความรัก ความเมตตา
ปรารถนา ให้ผู้อื่น มีสุขสันต์
ช่วยผ่อนคลาย ทุกข์โศก วิโยคพลัน
ให้คิดแต่ ทางสร้างสรรค์ เท่านั้นพอ
ให้เป็นผู้ มีน้ำใจ และเข้มแข็ง
พร้อมเรี่ยวแรง ทำงาน ไม่ทดท้อ
ใช้ปัญญา แก้ปัญหา ใช่เฝ้ารอ
ไม่นั่งขอ พรสิ่งใด เพื่อได้มา
ขอให้เกิด ความคิด อันซื่อตรง
ไม่พะวง ในกิเลส และตัณหา
ระลึกถึง คุณธรรม ทุกเวลา
พร้อมบูชา รัตนตรัย ด้วยใจเทอญ

คาถาบูชาพระ9 วัด

พระแก้วมรกต
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เขตพระนคร กทม.
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง นะมามิหัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา,
ทุติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง นะมามิหัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา,
ตะติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง นะมามิหัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทาฯ"


พระพุทธโสธร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาลวินาสสันติ นะ กาโล กะกุสันโธ สิโร มัชเฌ โม กโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธะกาโล กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กโร สีสักยะมุนี โคตะโม ยะ กันเต ยะ กาโล อะริยะเมตเตยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง"

พระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"อิเมหิ นานาสักกาเรหิ อะภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิ อะโรโค สุขิโต สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ปะสิทธิ ลาโภ ชะโย โหตุ สัพพะทา พุทธะชินะราชา อภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะฯ"

พระพุทธไตรรัตนนายก(หลวงพ่อโต)
วัดพนัญเชิง วรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ, ทุติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ, ตะติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ"

หลวงพ่อวัดไร่ขิง
วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะธิปาถิตัง อิทธิปาฏิหาริกัง มังคะละจินตารามพุทธะปะฏิมากะรัง ปูชามิหัง ยาวะชีวัญจะ สุกัมมิโก สุขะปัตถิตายะ"

หลวงพ่อวัดบ้านแหลม
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร อ.เมือง สมุทรสงคราม
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"นะ มะ ระ อะ นะ เท วะ อะ" หรือ "สะทา วะชิระสะมุททะวะระวิหาเร ปะติฏฐิตัง นะระเทเวหิ ปูชิตัง ปัตตะหัตถัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ ทูระโต"


พระพุทธสิหิงค์
หอพระพุทธสิหิงค์ ศาลากลางจ.นครศรีธรรมราช
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"อิติ ปะวะระสิหิงโค อุตตะมะยะโสปิ เตโช ยัตถะ กัตถะ จิตโต โส สักกาโร อุปาโท สะการะพุทธะสาสะนัง โชตะยันโต วะ ทีโป สุระณะเรหิ มะหิโต ธะระมาโน วะ พุทโธติ"

พระใส
วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"อะระหัง พุทโธ โพธิชะโย เสยยะคุโณ โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ ภะวันตุ โน โหตุ สัพพะทา"

พระพุทธนเรศร์สักชัยไพรีพินาศ
วัดบุพพาราม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
คาถาบูชา (ตั้งนะโม 3 จบ)
"อิติจิตตัง เอหิ เทวะตาหิ จะ มะหาเตโช นะระปูชิโต โสระโส ปัจจะยาธิปะติ นะเรโส จ มะหาลาภัง สะทา โสตถี ภะวันตุ เม"

คาถามหามงคลของพระพุทธเจ้า ท่าซุง

บทบูชาพระ
พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
3
กราบพระ 6 ครั้ง
พุทธัง วันทามิ (กราบ)
ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
สังฆัง วันทามิ (กราบ)
ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)
พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)
4
บทไตรสรณคมณ์ บทสมาทานศีล 5
.....ตั้งนะโม 3 จบ.....
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ปานาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
สุราเมรยะ มัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ

( 3 ครั้ง )
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะ

สัมปทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมาสีลัง

วิโส ธะเย
5
บทอาราธนาพระ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
ธัมมัง อาราธนา กะโรมิ สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ
6
คาถาหลวงปู่ทวด
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( 3 ครั้ง)
คาถาหลวงปู่ดู่
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ ( 3 ครั้ง )
7
บทขอขมาพระรัตนตรัย
โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
8
บทสวดมหาจักรพรรดิ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
สวดตามกำลังวัน เช่น สวดวันอาทิตย์ ให้สวด 6 จบ
วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธ 17 จบ
วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ วันเสาร์ 10 จบ
นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
9
บทอัญเชิญพระเข้าตัว

(แผ่เมตตา)

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส ( 5 จบ )
*พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆัง อธิษบามิ*(ให้อธิษฐานเอา)
10
คำอธิษฐานฝึกจิตเร่งสมาธินิมิต
ข้าพเจ้า.....(นาม)..ผู้เป็นข้ารับใช้

แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำ

บารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า

พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์และ

พระบรมมหาจักรพรรดิตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน

และอนาคต ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกัน

มา โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญ

โญเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า

ขึ้นสู่สภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติ

ทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิด

ปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร

ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาวะ

เมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวการณ์

ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน

ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอ

ให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และ

พยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ

เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้

ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้

แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา....
11
คำอธิษฐานรวมบุญ
ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระ

มหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต

ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีแห่งองค์

พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหา-จักรพรรดิ

เป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิ

ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้

โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า..(นาม)..เพื่อ

เบิกมาใช้ให้มีความคล่องตัวในทุกๆเรื่อง

อันใดติดขัดขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออก

จากคนโท ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใด

คล่องตัวอยู่แล้ว ขอให้คล่องตัวยิ่งๆขึ้น โดย

ขึ้นชื่อว่า ความอด ความอยาก ความยาก

ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในขัพเจ้า

ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่

กาลบัดเดี๋ยวนี้ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระ

นิพนานด้วยเถิดและโดยเฉพาะกาลนี้ขอให้

มีความคล่องตัวในเรื่อง...(อธิษฐานพิเศษ

เอาเอง)..
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว

สัพเพพุทธา....
12


คำอธิษฐานถอนคำสาปแช่งต่อปัจจุบันชาติ-อดีตชาติ
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ตติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ข้าพเจ้าขอถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ที่

ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นถึงพร้อมแล้วด้วยกิเลส

ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน ด้วยราคะ ด้วยโทสะ

ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไป

เพื่อความพยาบาท เบียดเบียน สร้างเวรสร้าง

กรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วย

วินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วย

ปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้

อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี

ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี

ทั้งหมดทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอน้อมเอาพระ

พุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า

แม่พระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพาย

และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยานว่า

ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปเหล่านั้น ถอนคำแช่ง

เหล่านั้น ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญฯ

นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน

นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน

ยะคลอน ถอนด้วย นะโมพุทธายะ
ข้าพเจ้าขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัย

ความบกพร่อง ผิดพลาดของสรรพสัตว์ทั้ง

หลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิต ทุกวิญญาณ

ทุกที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อทอญฯ
หากผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ตั้งแต่

อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติก็ดี และคนรัก

ชอบข้าพเจ้าก็ดี หากมีผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายกับ

ข้าพเจ้าและสาปแช่งข้าพเจ้าไว้ทั้งทางลับ

ทางแจ้ง ขอให้สิ่งนั้นอย่าเป็นโทษ เป็นกรรม

แก่กันและกันเลย หากมีสิ่งใดอยู่ในตัว

ข้าพเจ้า สังขารข้าพเจ้า ขอให้ออกไป

ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย สาธุ สาธุ

สาธุ และขอให้กุศลที่ข้าพเจ้าถอนคำสาปแช่ง

นี้ ขอให้สิ่งเหล่านี้เป็นกุศลกลับมาให้ชีวิต

ข้าพเจ้ามีความสงบ ความสว่าง ความสุข

และเจริญ รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ

สมความปรารถนาทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้

เป็นต้นไปเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
(จากหนังสือรวมคาถามหามงคลของพระ

พุทธเจ้าฉบับสมบูรณ์)

หลวงปู่เทพโลกอุดร

พระคาถาบางบท
เกี่ยวกับบรมครูพระเทพโลกอุดร

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพานัง สะระนัง คัจฉามิ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหังสัมมนา สัมพุทธโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุขะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพานัง สะระนัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะนิพานัง สะระนัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน
ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ
อัฏฐะ ปุริสะปุคคลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
ปรัตถิมัสมิง ทิสาภาเค สันติ ภูตา มะหิทธิกา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
ทักขิณัสมิง ทิสาภาเค สันติ เทวา มะหิทธิกา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
ปัจฉิมัสมิง ทิสาภาเค สันติ นาคา มะหิทธิกา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
อุตตะรัสมิง ทิสาภาเค สันติ ยักขา มะหิทธิกา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
ปุริมะทิสัง ธะตะรัฎโฐ ทักขิเถนะ วิรุพหะโก
ปัจฉิมเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
จัตตาโรเต มะหาราชา โถกะปาถา ยะสัสสิโน
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
อากาสัฎฐา จะ กุมมัฎฐา เทวา นาคา ยักขา มะหิทธิกา
เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ
ตั้งจิตอธิษฐาน
ด้วยคุณธรรมอันสูงส่งประเสริฐสุดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เกล้ากระผม/ดิฉัน ได้กล่าวสรรเสริญสวดอิติปิโสธงชัย อิติปิโสเต็ม อัญเชิญท่านท้าวมหาพรหมทั้งสี่ทิศสี่พระองค์ดังที่กล่าวสรรเสริญด้วยจิตอันบริสุทธิ์หมดจดผ่องใสมานี้ เกล้ากระผม/ดิฉัน ขอนอบน้อมสักการะคารวะเทอดทูนไว้ด้วยเศียรเกล้าเหนือเกล้าทุกอิริยาบถด้วยเทอญ ดังกล่าวสรรเสริญมานี้ด้วยความนอบน้อมของเกล้ากระผม/ดิฉันในขณะนี้นั้น ขอจงโปรดประทานอำนวยพรให้เกล้ากระผม/ดิฉันให้ปราศจากอุปสรรค อันตราย ภัยพิบัติทั้งหลาย โรคาพยาธิทั้งหลาย ภัยจากเหล่าอมนุษย์ อลัชชี คุณไสย มนต์ดำ อาถรรพ์ทั้งหลายที่จะบังเกิดขึ้นมาทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าจงอันตรธานสุญหายไปโดยสิ้นเชิงด้วยพลังเดช อำนาจบารมีแห่งคุณธรรม เพื่อจะได้มีชีวิตดำรงคงอยู่เพื่อจะได้ประกอบภารกิจที่เป็นอยู่ให้เจริญก้าวหน้ายืนยาวนาน เพื่อจะได้บำเพ็ญบุญกุศลเป็นการสนองตอบแทนผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้รับส่วนบุญส่วนกุศล และเพื่อจะได้บำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงามยืนยาวนาน ดังที่กล่าวสรรเสริญมานี้นั้น ขอจงโปรดประทานอำนวยพร พละกำลัง เดช อำนาจ บารมี แก่เกล้ากระผม/ดิฉันดังที่ตั้งปณิธานสัจจะอธิษฐานกล่าวสรรเสริญมา ณ บัดนี้ด้วยเทอญ และจะดำรินึกคิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ขอให้ช่วยเกื้อกูลให้สำเร็จ อย่าได้มีขัดข้อง ขอจงมีแต่ความอุดมสมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่รู้จักความทุกข์ยากขัดสนทุกภพทุกชาติ ขอให้มีสติปัญญาบทนี้เรียกว่า อิติปิโสเต็ม
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง
อิติปิโส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ
อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุขะโต
อิติปิโส ภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ
อิติปิโส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง
อิติปิโส ภะคะวา พุทโธ ภะคะวาติ

บทนี้เรียกว่าท้าวมหาพรหมทั้งสี่พระองค์ชั้นจะตุม
เฉลียวฉลาด หลักแหลม ลึกซึ้ง คมคาย แก้ไขสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ ดังที่ตั้งปณิธานกล่าวสรรเสริญมานี้ ขอเดชะอานุภาพอันสูงส่งประเสริฐสุด โปรดประทานอำนวยพรให้เป็นพละกำลัง เดช อำนาจ บารมี เป็นเกราะแก้วทั้งเก้าชั้นคุ้มภัยแก่เกล้ากระผม/ดิฉัน ณ บัดนี้เดี๋ยวนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ
และบุญกุศลอีกส่วนหนึ่ง เกล้ากระผม/ดิฉันขอน้อมอธิษฐานนำส่งให้แก่บรรพบุรุษ ปู่ย่า ตายาย บิดา มารดา พี่ป้าน้าอา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน ทุกยุคทุกกาล และขออุทิศให้แก่บุรพกษัตราธิราชเจ้าทุกๆ พระองค์ ตั้งแต่สร้างชาติไทยเป็นต้นมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ตลอดถึงพระมเหสีและรัชทายาททุกๆ พระองค์ และอุทิศให้แก่ท่านแม่ทัพนายกองทุกหมู่เหล่า ตั้งแต่สูงสุดจนต่ำสุด ทุกท่าน ทุกชั้น ทุกระดับ ทุกยุคทุกกาล ขออุทิศให้แก่พระสยามเทวาธิราช ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ (พระจันทร์ พระยม พระวรุณ พระกุเวร หรือเวสสุวรรณ) พระชัยมงคล เจ้ากรุงพาลี พระภูมิเจ้าที่ เจ้าที่เจ้าทางของทุกแห่งในปัจจุบันสรรพสัตว์ทั้งหลายทุกดวงจิตวิญญาณ หากพระองค์ใดท่านใดจขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ขอให้ผลของกุศลที่เกล้ากระผม/ดิฉันได้ตั้งจิตอธิษฐานอุทิศให้นี้ จงเป็นของทิพย์ให้แก่ทุกๆ พระองค์ ทุกๆ ท่านให้สมบูรณ์ตามที่จิตปรารถนา ตลอดทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์อาหายจงครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์อยู่ทุกเมื่อ และขอได้โปรดประทานพรให้เกล้ากระผม/ดิฉันมีอายุยืนยาวนาน ไม่รู้จักความทุกข์ยากขัดสนเพื่อจะได้ดำรงคงอยู่ เพื่อจะได้ใช้เวลาสร้างบุญ สร้างกุศลมหากุศล และอุทิศถวายเป็นการสนองตอบแทนผู้มีพระคุณ และเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงามยืนยาวนานสืบไป ไม่ว่าเกล้ากระผม/ดิฉันจะประกอบกิจการงานสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขอจงช่วยเกื้อหนุนอยู่ทุกเมื่อ อย่าให้เหล่าอมนุษย์ อลัชชี คุณไสย มนต์ดำ อาถรรพ์และภัยพิบัติต่างๆ มาแผ้วพานเกล้ากระผม/ดิฉันได้เลย และผลของกุศลมหากุศลอีกส่วนหนึ่งจงเป็นกองการกุศล เป็นพื้นฐานบารมีทั้งปัจจุบันและอนาคตให้แก่เกล้ากระผม/ดิฉัน จะเกิดภพใดชาติใด จงเป็นปัจจัยนำส่งให้พ้นทุกข์ไปทุกภพทุกชาติ จนถึงพระอนุตตะระสัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยเทอญ
หมายเหตุ
อนึ่ง ท่านที่ปรารถนาสร้างบุญกุศลและยึดมั่นในอำนาจบารมีของคุณพระศรีรัตนตรัย ขออย่าได้ดัดแปลงแก้ไขข้อความของพระคาถาและคำอธิษฐานต่างๆ จะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ด้อยลงไป และจะเกิดโทษได้ หากจะสร้างเสริมบารมีให้เพิ่มพูนก็จงถ่ายสำเนาแจกให้ผู้อื่นต่อๆ ไป ยิ่งมากยิ่งเป็นมหากุศล ทั้งจะส่งให้ผืนแผ่นดินไทยบังเกิดแต่ความสงบร่มเย็น ผ่านพ้นยุคเข็ญได้ จงอธิษฐานเอาเถิดประเสริฐนักแล

พระคาถาบูชาบรมครูพระเทพโลกอุดร
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

โย อะริโย มะหาเถโร อะระหัง อภิญญาธะโร
ปะฏิสัมภิทัปปัตโต เตวิชโช พุทธะสาวะโก
พะหู เมตตาทิวาสะโน มะหาเถรานุสาสะโก
อะมะตัญเญวะ สุชีวะติ อะภินันที คุหาวะนัง
โส โลกุตตะโร นาโม อัมเหหิ อะภิปูชิโต
อิธะ ฐานูปะมาคัมมะ กุสะเล โน นิโยชะเย
ปุตตะเมวะ ปิยัง เทสิ มัคคะผะลัง วะ เทสสะติ
ปะระมะสารีริกะธาตุ วะชิรัญจาปิวานิตัง
โส โลเก จะ อุปปันโน เอเกเนวะ หิตังกะโร
อะยัง โน โข ปุญญะลาโภ อัปปะมัตโต ภะเวตัพโพ
สาธุกันตัง อะนุกะริสสามะ ยัง วะเรนะ สุภาสิตัง
โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต
โลกุตตะรังคุณัง เอตัง อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
มะหาเถรา นุภาเวนะ สุขัง โสตถี ภะวันตุ เม

ฉบับย่อ
นะโม ๓ จบ
โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร
อะหัง วันทามิ ตัง สะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ
อะหะพุทโธฯ
ภาวนา ๓ จบ ๗ จบ หรือ ๙ จบ เช้า-เย็น ตื่นนอน และก่อนนอน
ธรรมะบางข้อของบรมครูพระเทพโลกอุดร

1. ธรรมะของท่านต้องเกิดจากการปฏิบัติเท่านั้น
2. ต้องมีสติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
3. อยากรู้ธรรมะ หรือคำสอนของท่านให้ดูจิตตนเอง
4. ให้รักผู้อื่นเหมือนที่รักตนเอง
5. ให้ทำตัวเหมือนน้ำ
- น้ำไปได้ทุกสถานที่ อยู่ในน้ำ ในอากาศ ในดิน
- น้ำอยู่ใต้ทุกสภาวะ เป็นไอน้ำ เป็นน้ำ เป็นน้ำแข็ง
- น้ำให้ความชุ่มชื้น สดชื่น แก้กระหาย น้ำให้ชีวิต และทำลายชีวิต
- น้ำให้ความเย็น ให้ความร้อน
- น้ำมีรูปร่างต่างๆ กันตามรูปร่างของภาชนะ
- น้ำใช้ล้างความสกปรกให้สะอาด
ฯลฯ

อารธนาพระวิสุทธิพุทธรังษี รับจิตกลับบ้านนิพพาน

อิมินา สักกาเรนะ องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดา อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังพุทธธัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังธรรมมัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังสังฆัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ มาตาปิตุคุณัง ปูเชมะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ คุณครูอาจารย์คุณัง ปูเชมะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ เทพไท้เทวาคุณัง ปูเชมะ (กราบ)

คำอาราธนาองค์พระบรมธรรมบิดาองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าและท่านผู้มีพระคุณทุกท่านทั้ง 3 โลก

ข้าแต่องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา ผู้มีพระมหาเมตตาแก่ปวงสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ข้าแต่องค์สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระคุณมากล้นสุดที่จะพรรณนา ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอมอบกายถวายชีวิต ทำคุณงามความดีเพื่อองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระโลกเชษบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อพระนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางในชาตินี้ ลูกๆเหล่าพุทธบริษัท ขอน้อมกราบแทบพระบาทพระจอมไตรบรมธรรมบิดา ด้วยความขอบพระคุณในพระมหากรุณาธิคุณ ลูกขอกราบโมทนาบุญบารมีอันสูงส่ง ขออาราธนาอัญเชิญบุญบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธปฐมบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ขอได้โปรดเสด็จมารับเครื่องสักการะบูชามีบายศรีดอกไม้ธูปเทียน อาหารที่ลูกๆ จัดหามาน้อมถวาย ด้วยความเคารพรักบูชาอย่างสูงสุด ขอได้โปรดเมตตาประทานอภัย ในสิ่งที่ลูกกระทำผิดพลาดพลั้งไปด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาตินี้ ลูกๆขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอบวชจิตเป็นลูกศิษย์พระตถาคตเจ้าด้วยการมีศีล 5 ครบ เคารพพระรัตนตรัย ไม่หลงใหลติดใจในร่างกายตนเองและทรัพย์สินใดๆในโลกมนุษย์เทวดาพรหม ขอมีพระนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิต
ลูกขอกราบอาราธนาอัญเชิญพระบารมี องค์สมเด็จพระพุทธชินศรีพระบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระสัพพัญญูพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมด้วยแสงทิพย์อริยทรัพย์รวมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ ลูกขออัญเชิญพระอริยะสงฆ์เจ้าทุกๆ พระองค์ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ มีองค์หลวงปู่ปานและองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ได้โปรดเมตตาสอนวิชชามโนมยิทธิกรรมฐาน ให้ลูกหลานเข้าใจในสภาวะพระนิพพานอย่างถูกต้องและง่ายดาย ลูกขอกราบอัญเชิญคุณพ่อคุณแม่ผู้มีพระคุณมากล้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงพระโพธิสัตว์ เจ้าพระศาสดาเจ้าทุก ๆ ศาสนา คุณครูบาอาจารย์ เทพไท้เทวาพรหมมาฟ้าดิน พระแม่เจ้าธรณีพระแม่โพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พระแม่คงคา เทพเจ้าทุกๆ ศาสนาที่ดูแล ปกปักรักษาโลกทั้ง 3 รวมทั้งอนันตสุริยะจักวาล มีองค์ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม คือ ท่านปู่สหัมบดีพรหมผู้เป็นเลิศทางมหาเมตตา ท่านปู่มหาพรหมวิสุทธิทศพลมหาภารตะ ผู้เป็นเลิศ ประเสริฐมีฤทธิ์ในทุกวิธีการท่านปู่ชินปัญชระมหาพรหม ผู้เป็นเจ้าของพระคาถาชินบัญชรเป็นเลิศทางพิธีกรรม ท่านปู่ผกาพรหม ผู้เป็นเลิศทางปัญญาในพรหมทั้ง 16 ชั้น มีองค์ท่านท้าวสักกะเทวราชและคู่บารมีคือท่านย่าพังคราณี ผู้มีมหาเมตตาจิตดูแลเทวดาทั้ง 6 ชั้น รวมทั้งมนุษย์ สัตว์ สัมภเวสี มีท่านผู้เป็นใหญ่คอยควบคุมดูแล ผี เทวดา คน สัตว์ทั้ง 4 ทิศ คือ ท่านท้าวจาตุรมหาราช มีองค์ท่านท้าวธตรฐมหาราช
ผู้เป็นใหญ่แห่งคนธรรพ์ ดูแลทิศตะวันออก ท่านท้าววิรุฬหกมหาราชหรือท่านท้าวพระยาครุฑ ผู้เป็นใหญ่แห่งกุมภัณฑ์ ดูแลทางทิศใต้ องค์ท่านวิรูปักษ์ มหาราชผู้เป็นใหญ่แห่งนาคทั้งหลาย ดูแลทางทิศตะวันตก องค์ท่านท้าวเวสสุวัณ มหาราชผู้เป็นใหญ่แห่งยักษ์ทั้งหลาย ดูแลทางด้านทิศเหนือ ขออัญเชิญทุกๆ พระองค์เสด็จมาเป็นมหามงคลร่วมงานพิธีครั้งนี้โดยทั่วกัน
ขออัญเชิญเทพพรหมทั้งหมดทุกชาติทุกศาสนา ซึ่งสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น พรหม 16 ชั้น ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพและภูมิเทวดา เจ้าที่ ซึ่งสถิตอยู่ในวิมาน บนยอดเขา หุบเขา ในอากาศ ในเกาะ ในแว่นแคว้น ในบ้าน บนต้นไม้ ในไร่นาตลอดจนถึงยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ นาคและกุมภัณฑ์ ซึ่งสถิตอยู่ในน้ำ บนบก ในอากาศ บนพื้นที่ไม่ราบเรียบ ที่ใกล้หรือไกล ที่สำคัญก็คือท่านท้าวพระยายมราช ผู้เป็นใหญ่ใจดี มีฤทธิ์มากในยมโลก ขออัญเชิญทุกท่านมาพร้อมกันในที่นี้และลูกขอองค์ท่านปู่พระยายมราชและเทพเทวดาทุกท่าน ที่ดูแลสถานที่ยมโลก รวมทั้งนายนิริยบาลทุกท่าน ขอได้โปรดมาโมทนาและเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของลูกๆ ทั้งหลายในที่นี้ แล้วขอไปบอกกล่าวแก่ทุกๆ ท่านในยมโลกให้ได้โมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ด้วย
ลูกๆ กราบอาราธนาขออัญเชิญพระเมตตาบารมี ท่านผู้มีพระคุณทั้งหมดทุกๆ พระองค์เบื้องบนนิพพาน ได้โปรดเมตตาเสด็จลงมารับเครื่องสักการะบูชา ที่พวกลูกๆ เหล่าพุทธบริษัทตั้งใจน้อมนำถวายเป็นพระบรมธรรมบิดาบูชา พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา มาตาปิตุบูชา คุณครูอาจารย์บูชาเทพพรหมเทวดาบูชา ด้วยความรักเคารพอย่างสูงสุด เพื่อประโยชน์สันติสุขของชาวมนุษย์โลก รวมทั้งเหล่าผีสัมภเวสีเร่ร่อนพเนจร จะได้มีบุญสัมผัสเห็นแสงสว่างของแสงทิพย์นิพพาน รวมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการและแสงแห่งบุญบารมีขององค์พระอริยะเจ้า เทพพรหมทุกพระองค์ ลูกๆขอให้ดวงจิตวิญญาณทุกๆ ท่านใน3โลก มีนรกโลก มนุษย์โลก เทวพรหมโลกได้มีบุญวาสนาบารมี รับพลังแสงทิพย์อริยะธรรม กันทุกๆ ดวงจิต เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ลูกๆ พุทธบริษัท มารวมกันตั้งจิตอธิษฐาน ขอปฏิญาณตนเป็นคนดี มีศีล5ครบ ไม่คิดเบียดเบียนใครในกรรมบถทั้ง10 มีสัจจะ ความจริงใจ มีเมตตาเคารพรักบูชาในพระรัตนตรัย ไม่สงสัยในพระธรรมวินัย คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระพุทธชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า มีจิตตั้งมั่นในพระนิพพาน เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิตอุทิศตนทำงานเพื่อประโยชน์สุขของตนเอง ครอบครัว ชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความขยันหมั่นเพียรทางกายคือทางโลก ขยันทางจิตคือทางธรรมด้วยการไม่หลงใหลติดใจในร่างกายตนเองและผู้อื่น ไม่หลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสของสรรพสิ่งในโลกมนุษย์ เป็นของสมมุติทั้งสิ้น ขยันแผ่เมตตา ฝากบุญกุศลไปกับพลังแสงทิพย์อริยธรรมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ ขอให้แสงทิพย์น้อมนำดวงจิตสรรพสัตว์ในอบายภูมิทั้ง4 ได้หลุดพ้นจากความหลงผิด ยึดติดในความชั่วบาปกรรมทั้งหลาย ขอให้ทุกท่านโมทนาได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติในอบายภูมิทั้ง 4
ด้วยเดชเดชะแห่งองค์พระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดานุภาพ พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ ขอได้โปรดเมตตาพุทธาภิเษกทุกๆดวงจิต ของเทพพรหม คน ผี เปรต อสุรกาย สัตว์นรก รวมทั้งวัตถุมงคล อาหาร ผลไม้ น้ำ สิ่งของทุกชนิด ที่ลูกๆน้อมนำมาถวาย ขอให้กลับกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีพลังแสงทิพย์อริยธรรม มีผลานุภาพของแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ เพื่อน้อมนำดวงจิตทุกๆสรรพสัตว์ คน เทวดา พรหม เข้าเป็นพระอริยมรรคอริยผลเป็นพระอริยบุคคลในพระศาสนา พ้นจากวัฏฏะสงสารเข้าพระนิพพานโดยฉับพลันทันใด ด้วยอานิสงส์ที่ลูกพุทธบริษัททุกคนได้มาร่วมกันปฏิบัติบูชา เป็นมหามงคลสูงสุดในชีวิต ขอให้ลูกมีความสุขกายสุขใจ อย่าได้มีคำว่า ไม่มี ไม่ได้ไม่หายจากโรคภัย ไม่พ้นอันตราย ไม่พ้นบาปกรรม ไม่ได้ช่วยคนทั้งทางโลกทางธรรม ไม่สำเร็จขออย่าได้มี ในชีวิตอันเป็นสุดท้ายของลูกนี้ขอให้ลูกได้ตายรวดเร็วทันใจ ก่อนตายไม่ทุกข์ทรมานจนเกินไป ขออัญเชิญพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดเมตตาเสด็จมารับจิตวิญญาณของลูกทุกคนกลับบ้านพระนิพพานด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า

ขั้นตอนสวดมนต์ของปาล์ม

มีขั้นตอนตามนี้ครับ
1. เราต้อง อาบน้ำชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ใส่เสื้อสีขาวดูสุภาพ เพื่อให้ความเคารพพระรัตนตรัย จากนั้นไปที่ห้องพระ ต้องหลังจากรับประทานอาหาร อย่างต่ำ 1 ชั่วโมงครึ่ง
2. จากนั้น จุดเทียน 2 เล่ม ซ้ายขวา (แทนพระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่สาดส่องสรรพสัตว์ให้หายจากความมืดมน) ธูป 5 ดอก (แทนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของเราถวายเป็นพุทธบูชา ) เพื่อบูชาพระรัตนตรัย หากสถานที่ไม่อำนายก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องจุดธูปเทียน
3. จากนั้น กราบลง 3 ครั้ง
จึงเริ่ม สวดมนต์ ตามนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 ครั้ง
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)
มาตา ปิตุ คุณัง อะหัง วันทามิ (กราบ)
คุรูปัชฌายาจาริยะ คุณัง อะหัง วันทามิ (กราบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 ครั้ง
อุกาสะ อัจจะโย โน ภันเต อัจจักคะมา ยะถาพาเล ยะถามุฬเห ยะถาอะกุสะเล เยมะยัง กะรัมหา เอวัง ภันเต มะยัง อัจจะโยโน ปฏิคคัณหะถะ อายะติง สังวะไรยยามิ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะ สาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวะติ
สะหวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุไนยโย ปาหุไนยโย ทักขิไณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
จากนั้น ให้กราบลง 3 ครั้ง
เริ่มนั่งสมาธิ ให้จัดท่านั่งที่เราสบาย นั่งขัดสมาธิธรรมดา หรือพับเพียบก็ได้ มือขวาทับมือซ้าย
นั่งหลังตรง จากนั้นหลับตาลง แล้วเริ่มอย่างแรก คือระบายลมหยาบออกจากร่างกายเราก่อน คือหายใจเข้าให้ลึกที่สุด สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุด กลั้นไว้จนกว่าจะไม่ไหว จากนั้นจึงหายใจออกให้ลึกที่สุด แล้วหายใจเข้าให้ลึกที่สุด ทำแบบนี้สลับกันไป จนได้หายใจเข้า 3 ครั้ง หายใจออกสามครั้ง
การระบายลมหยาบออกจากร่างกายก่อน จะช่วยให้เข้าสมาธิได้ไว ไม่สะดุด เวลานั่งๆไป เป็นการปรับสมดุล ก่อนนั่งสมาธิ
จากนั้น ให้เราคิดว่า เราได้ตายไปแล้ว ไม่มีภาระอื่นใด ชีวิตเราไม่เหลืออะไร เหลือแค่ การทำสมาธิ จะได้ตัดความกังวลลงไป จากนั้น ให้เริ่ม ทำสมาธิ โดยการดูลมหายใจ ไปเรื่อยๆ หายใจเข้าพุท หายใจออก โท
ทำไปเรื่อยๆ ให้ตั้งเวลาไว้ โดยประมาณ 20 นาที อย่าให้นานเกิน เอาน้อยๆ แต่เน้นจิตสงบ ให้รู้แค่ตอนลมหายใจเข้า พุท หายใจออกโท เท่านั้น อย่าให้ใจคิดไปอย่างอื่น

เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้เราพิจารณาดังนี้
เราทุกคนล้วนมีความทุกข์ ไม่ว่ารวยจนขนาดไหน อายุมากหรืออายุน้อยก็ตาม แม้เราเองก็มีความทุกข์ คนทุกคนมีความทุกข์เสมอกัน สองประการ
หนึ่งความทุกข์ประจำ สองความทุกจร ความทุกข์ประจำ ก็คือความทุกข์ประจำสังขารที่เรา ต้องพบเจอกับมันทุกวัน
ตั้งแต่ เราตื่นขึ้นมาแต่ละวัน เราต้องปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ หากไม่ถ่ายหนัก ไม่ถ่ายเบา ก็ไม่ได้ เจ็บปวดเป็นทุกข์ ไหนจะต้องอาบน้ำแปรงฟัน สระผม ถูสบู่ เพื่อให้ร่างกายกลับมาดูดี ดูหอม ซึ่งก่อนนอนเราอาบ เราทำความสะอาดไปแล้ว ตื่นมาทีไรต้องทำทุกที
ต้องมาลำบากแต่งตัว ทาแป้ง ใช้น้ำหอมทุกๆวัน สายมาเริ่มหิวข้าว ไม่กินก็ไม่ได้ ความหิวทำให้ทรมาน ท้องร้องเจ็บท้อง หากไม่กินก็จะเป็นโรคกระเพาะ
อีกหน่อยก็ต้องรีบไปทำงาน ทำภาระของตน
พอเที่ยงก็เริ่มหิวขึ้นมาอีก พอตกบ่าย อากาศร้อนๆ เหงื่อเริ่มไหล ตัวหอมๆของเรา เริ่มไม่หอมแล้ว เปลี่ยนไปแล้ว ต้องหาน้ำหอมาฉีดมาพรม ให้พอดูได้
เย็นๆ กลับบ้าน ต้องทานข้าวเย็นอีก ข้าวปลาอาหารที่กินเข้าไปดีๆ ทั้งนั้น แต่พอตื่นเช้าขึ้นมา ก็ต้องขับถ่าย พอถ่ายออกมา น่าดูไหม ดูไม่ได้
ไหนเราจะต้องหาผ้ามาห่มเวลาเราหนาว ไหนจะอาบน้ำให้หายร้อน ไหนจะกินให้หายหิว ไหนจะเจ็บปวด เวลาเราป่วย
นี่แหละคือความทุกข์ ที่ทุกคนมีเสมอกัน อย่าหลงเกินไป
จากนั้น ให้พิจารณาดูความทุกข์จร ความทุกข์จร ได้แก่ปัญหาที่จรเข้ามาแต่ละวัน การเงิน การงาน ปัญหาครอบครัวบ้าง เรื่องการเรียนบ้าง ที่คอยบีบคั้นเราทุกวัน
ลองตรองดูดีๆ ชีวิตคนเราแท้จริงมีความสุขไหม ให้พิจารณาให้เห็น ใครกรรมเก่าหนักมากก็ปัญหามาก
ไหนจะต้องเผชิญชะตากรรม ต่างๆ ในชีวิต ดูแล้วชีวิตเราไม่มีความสุขใดๆเลย
ที่เราต้องมาทุกข์แบบนี้ เพราะอะไร เพราะเรามีกิเลส มีกิเลสเลยต้องมาเกิด ต้องมามีร่างกาย มามีสังขาร ให้ต้องทุกข์ทน
ให้เราพิจารณาเนืองๆ แบบนี้ประจำ ให้อธิษฐานไว้ว่า ตายเมื่อไหร่ จุดที่จะไปคือพระนิพพาน ไม่ขอไปจุดอื่น ไม่ขอเกิดอีกแล้ว คือขอถึงความสิ้นทุกข์ทั้งมวล ขอถึงพระนิพพาน

จากนั้น ให้สวดบทพิจารณาสังขาร
สัพเพ สังขารา อะนิจจา.
สังขารคือร่างกาย จิตใจ และรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไปมีแล้วหายไป.
สัพเพ สังขารา ทุกขา.
สังขารคือร่างกาย จิตใจ แลรูปธรรม นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นทุกข์ทนยาก เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่ เจ็บ ตายไป.
สัพเพ ธัมมา อะนัตตา
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่เป็นสังขาร แลมิใช่สังขารทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา ว่าตัวว่าตนของเรา.
อะธุวัง ชีวิตัง ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน
ธุวัง มะระณัง ความตายเป็นของยั่งยืน
อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง อันเราจะพึงตายเป็นแท้
มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง ชีวิตของเรามีความตายเป็นที่สุดรอบ
ชีวิตัง เม อะนิยะตัง ชีวิตของเรา เป็นของไม่เที่ยง
มะระณัง เม นิยะตัง ความตายของเรา เป็นของเที่ยง
วะตะ ควรที่จะสังเวช
อะยัง กาโย ร่างกายนี้
อะจิรัง มิได้ตั้งอยู่นาน
อะเปตะวิญญาโณ ครั้นปราศจากวิญญาณ
ฉุฑโฑ อันเขาทิ้งเสียแล้ว
อะธิเสสสะติ จักนอนทับ
ปะฐะวิง ซึ่งแผ่นดิน
กะลิงคะรัง อิวะ ปะดุจดังว่าท่อนไม้และท่อนฟืน
นิรัตถัง หาประโยชน์มิได้
มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม นิพพานมีสุข อยู่ไยมิไปตัณหาหน่วงหนัก หน่วงชักหน่วงไว้ ฉันไปมิได้ ตัณหาผูกพันห่วงนั้นพันผูก ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร จงสละเสียเถิด จะได้ไปนิพพาน ข้ามพ้นภพสาม ยามหนุ่มสาวน้อย หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ แก่เฒ่าหนังยาน แต่ล้วนเครื่องเหม็น เอ็นใหญ่เก้าร้อย เอ็นน้อยเก้าพัน มันมาทำเข็ญใจ ให้ร้อนให้เย็น เมื่อยขบทั้งตัว ขนคิ้วก็ขาว นัยน์ตาก็มัว เส้นผมบนหัว ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก ดูน่าบัดสี จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย ไม่มีเกสร จะเข้าที่นอน พึงสอนภาวนา พระอนิจจัง พระอนัตตา เราท่านเกิดมา รังแต่จะตาย ผู้ดีเข็ญใจ ก็ตายเหมือนกัน เงินทองทั้งนั้น มิติดตัวไป ตายไปเป็นผี ลูกเมียผัวรัก เขาชักหน้าหนี เขาเหม็นซากผี เปื่อยเน่าพุพอง หมู่ญาติพี่น้อง เขาหามเอาไป เขาวางลงไว้ เขานั่งร้องไห้ แล้วกลับคืนมา อยู่แต่ผู้เดียว ป่าไม้ชายเขียวเหลียวไม่เห็นใคร เห็นแต่ฝูงแร้ง เห็นแต่ฝูงกา เห็นแต่ฝูงหมา ยื้อแย่งกันกิน ดูน่าสมเพช กระดูกกูเอ๋ย เรี่ยรายแผ่นดิน แร้งกาหมากิน เอาเป็นอาหาร เที่ยงคืนสงัด ตื่นขึ้นมินาน ไม่เห็นลูกหลาน พี่น้องเผ่าพันธุ์ เห็นแต่นกเค้า จับเจ่าเรียงกัน เห็นแต่นกแสก ร้องแรกแหกขวัญ เห็นแต่ฝูงผี ร้องไห้หากัน มนุษย์เราเอ๋ย อย่าหลงนักเลย ไม่มีแก่นสาร อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้ จะได้ไปสวรรค์ จะได้ทันพระพุทธเจ้า จะได้เข้านิพพาน อะหัง วันทามิ สัพพะโส อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโยโหตุฯ
เมื่อพิจารณาดังนี้แล้ว ให้เรากำหนดว่า
ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้เสียงของข้าพเจ้า ดังไปถึงทุกรูปนาม ที่มีกรรม มีเวร เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ทั้งผู้ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
หรือ ผู้ที่ข้าพเจ้าเองเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขา
หากข้าพเจ้า ได้เคยไปล่วงเกินท่านผู้ใดก็ตามด้วยกาย วาจา ใจ ด้วยความตั้งใจ หรือไม่เจตนาก็ตาม รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม ในชาติก่อนก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอให้ท่านอโหสิกรรม ในความผิดพลาดของข้าพเจ้า ที่ได้ล่วงเกินท่านด้วย
ในทำนองกลับกันนั้น หากผู้ใดตามทุกรูปนาม ที่เคยล่วงเกินข้าพเจ้า ด้วยกาย วาจา ใจ ด้วยความตั้งใจ หรือไม่เจตนาก็ตาม รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม ในชาติก่อนก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ ทั้งหมด
หากข้าพเจ้าเคยไปสาปแช่งผู้ใดไว้ก็ตาม ในภพชาติที่ผ่านมาทั้งหมดก็ดี ชาตินี้ก็ดี ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปแช่งเหล่านั้น ขอให้ทุกรูปนาม เป็นอิสระจากคำสาปเหล่านั้นทั้งหมด
แล้วหากข้าพเจ้าเคยอธิษฐาน สิ่งใดก็ตาม อันไม่เหมาะไม่ควร ไม่เป็นสัมมาทิฐิ ข้าพเจ้าขอถอน ความตั้งใจ และคำอธิษฐานเหล่านั้น ขอให้ข้าพเจ้าอยู่ในความเป็นสัมมาทิฐิตลอดไป
จากนั้น ให้แผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนิโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ จงมีความสุขกายสุขใจรักษา
ตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
จากนั้นแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่
บทเมตตา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีเวรแก่กันและกันเถิด
อัพยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กาย ทุกข์ใจเถิด
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงเป็นผู้มีสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
บทกรุณา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ
จงพ้นจากทุกข์เถิด
บทมุทิตา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ
จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด
บทอุเบกขา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น
กัมมัสสะกา
เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา
เป็นผู้รับผลของกรรม
กัมมะโยนิ
เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ
เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระณา
เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ
กระทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา
ดีหรือชั่ว
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
———————————————————————————————————————–
จากนั้นให้แผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ
จากนั้นให้เราไปกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร โดยเตรียมน้ำเย็น หรือน้ำฝน ลอยดอกมะลิ สัก 7 ดอก แล้วไปที่โคนต้นไม่ใหญ่ ที่สุดในแถบนั้น
แล้วไปกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
โดยพูดว่า ขอบารมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ โปรดนำส่งผลบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วทั้งหมด ด้วยทาน ศีลภาวนา บุญกริยาวัตถุ 10 ประการ ในทุกภพชาติ จนถึงชาติปัจจุบันนี้ ขอให้บุญทั้งหลายนี้จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลายของข้าพเจ้าทุกรูปนามขันธ์ เมื่อท่านได้รับ ขอให้ท่านมีร่างกายบริบูรณ์ ขอให้ท่านมีอาหารการกิน น้ำดื่ม ที่บริบูรณ์ เสื้อผ้าอาภรณ์พรรณ เครื่องประดับกาย แสงสว่างกายที่อยู่อาศัยบ้านเรือน ปราสาท ยานพาหนะ ความสุขสบายทั้งปวง แล้วโปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วย
หมายเหตุ – หากท่านทำได้ดังนี้ กรรมเวรจะเบาลง
การนั่งสมาธิ จิตสงบได้ แม้เพียง ชั่วครู่ ย่อมบังเกิดบุญมหาศาล อุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จะได้ผลไว
ที่ต้องกรวดน้ำโดยใช้น้ำและดอกมะลิอีกที เพราะผีบางประเภท โมทนาบุญไม่ได้ ถ้าไม่มีสื่อ
จึงต้องกรวดน้ำให้

อานิสงค์พระอาการวัตตสูตร

อานิสงส์พระอาการวัตตาสูตร
เมื่อครั้งพุทธกาล
พระสารีบุตรได้ปริวิตกในจิตว่าจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ไม่รู้จักบารมีแห่งพระพุทธเจ้าได้อย่างไร
จึงได้กราบทูลถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า มีธรรมอันใดเล่า ที่จะลึกสุขุม
จะห้ามเสียซึ่งหมู่อันธพาลพังกระทำบาปกรรม ทั้งปวงไม่ให้ตกไปในนรกอเวจี
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถึงบทพระอาการวัตตาสูตรว่า อานิสงส์ดังนี้
ผู้ใดท่องได้ใช้สวดมนต์ปฏิบัติได้เสมอ มีอานิสงส์มากยิ่งนักหนา แม้จะปรารถนาพระพุทธภูมิ พระปัจเจกภูมิ
พระอัครสาวกภูมิ พระสาวิกาภูมิ จะปรารถนามนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ นิพพานสมบัติ
ก็ส่งผลให้ได้สำเร็จสมความปรารถนาทั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้เป็นพระพุทธเจ้าปัญญามาก
เพราะเจริญพระพุทธมนต์บทนี้ ถ้าผู้ใดปฏิบัติได้เจริญได้ทุกวันจะเห็นผลความสุขขึ้นเอง
ไม่ต้องมีผู้อื่นบอกอานิสงส์ แสดงว่าผู้ที่เจริญพระสูตรนี้ ครั้งหนึ่ง จะคุ้มครองภัยอันตราย 30
ประการได้ 4 เดือน ผู้ใดเจริญพระสูตรนี้อยู่เป็นนิจ บาปกรรมทั้งปวงก็จะไม่ได้ช่องหยั่งลงสู่สันดาน
เว้นแต่กรรมเก่าตามมาทันเท่านั้น ผู้ใดอุตสาหะ ตั้งจิตตั้งใจเล่าเรียนได้ สวดมนต์ก็ดี
บอกเล่าผู้อื่นให้เลื่อมใสก็ดี เขียนเองก็ดี กระทำสักการะบูชาเคารพนับถือ พร้อมทั้งไตรทวารก็ดี
ผู้นั้นจะปรารถนาสิ่งใดก็จะสำเร็จทุกประการ ท่านผู้มีปรีชาศรัทธาความเลื่อมใสจะกระทำซึ่งอาการวัตตาสูตร
อันจะเป็นที่พักผ่อน พึ่งพาอาศัยในวัฏฏสงสาร
ดุจเกาะและฝั่งเป็นที่อาศัยแห่งชนทั้งหลายผู้สัญจรไปมาในชลสาครสมุทรทะเลใหญ่
ฉะนั้น อาการวัตตาสูตรนี้ พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่ปรินิพพานไปแล้วก็ดี
พระตถาคตพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ดี มิได้สละละวางทิ้งร้างให้ห่างเลยสักพระองค์เดียว
ได้ทรงพระเจริญตามพระสูตรนี้มาทุกๆ พระองค์
จึงมีคุณานุภาพยิ่งใหญ่กว่าสูตรอื่นไม่มีธรรมอื่นจะเปรียบให้เท่าถึงเป็นธรรมอันระงับไปโดยแท้ในอนาคตกาล
ถ้าบุคคลใดทำปาณาติบาต คือ ปลงชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไปเป็นวัชร กรรมที่ชักนำให้ปฏิสนธิในนรกใหญ่ทั้ง 8 ขุม
คือ สัญชีพนรก อุสุทนรก สังฆาตนรก โรรุวนรก ตาปนรก มหาตาปนรก อเวจีนรก เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน กำเนิดไซร้
ถ้าได้ท่องบ่นทรงจำจนคล่องปากก็จะปิดบังห้ามกันไว้ไม่ให้ไปสู่ทุคติกำเนิดก่อนโดยกาลนาน 90 แสนกัลป์
ผู้นั้นระลึกตามเนืองๆ ก็จะสำเร็จไตรวิชชาและอภิญญา 6 ประการ ยังทิพจักษุญาณให้บริสุทธิ์
ดุจองค์มเหสักข์เทวราชมีการรีบร้อนออกจากบ้านไป จะไม่อดอาหารในระหว่างทางที่ผ่านไป
จะเป็นที่พึ่งอาศัยแห่งชนทั้งหลายในเรื่องเสบียงอาหาร ภัยอันตราย ศัตรู หมู่ปัจจามิตร
ไม่อาจจะมาครอบงำย่ำยีได้ นี้เป็น
ทิฏฐธรรมเวทนียานิสงส์ปัจจุบันทันตาในสัมปรายิกานิสงส์ ที่จะเกื้อหนุนในภพเบื้องหน้านั้น
แสดงว่าผู้ใดได้พระสูตรนี้เมื่อสืบขันธประวัติในภพเบื้องหน้า จะบริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ
หิรัณยรัตนมณีเหลือล้นขนขึ้นรักษาไว้ที่เรือนและที่คลังเป็นต้น ประกอบด้วยเครื่องอลังการภูษิตพรรณต่างๆ
จะมีกำลังมากแรงขยันต่อยุทธนาข้าศึกศัตรูหมู่ไพรีไม่ย่อท้อ
ทั้งจะมีฉวีวรรณผ่องใสบริสุทธิ์ดุจทองธรรมชาติ
มีจักษุประสาทรุ่งเรืองงามไม่วิปริตแลเห็นทั่วทิศที่สรรพรูปทั้งปวงและจะได้เป็นพระอินทร์ปิ่นพิภพดาวดึงส
์อยู่ 36 กัลป์ โดยประมาณและจะได้เป็นบรมจักรพรรดิราชผู้เป็นอิสระในทวีปใหญ่ 4 มีทวีปน้อย 2000
เป็นบริวารนานถึง 26 กัลป์ จะถึงพร้อมด้วยปราสาทอันแล้วไปด้วยทอง ควรจะปรีดา บริบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
เป็นของเกิดสำหรับบุญแห่งจักรพรรดิราช จะตั้งอยู่ในสุขสมบัติโดยกำหนดกาลนาน
ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏสงสารอานิสงส์คงอภิบาลตามประคองไปให้มีปัญญาฉลาดเฉียบแหลมว่องไวสุขุมละเอียดลึกซึ
้ง อาจรู้ทั่วถึงอรรถธรรมด้วยกำลังปรีชาญาณอวสานที่สุดชาติก็จะได้บรรลุพระนิพพาน
อนึ่งถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานก็จะไม่ไปบังเกิดในอบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน
กำเนิดและมหานรกใหญ่ทั้ง 8 ขุมช้านานถึง 90 แสนกัลป์ และจะไม่ได้ไปเกิดในตระกูลหญิงจัณฑาลเข็ญใจ
จะไม่ไปเกิดในตระกูลมิจฉาทิฏฐิ จะไม่ไปเกิดเป็นหญิง จะไม่ไปเกิดเป็นอุตโตพยัญชนก อันมีเพศเป็น 2 ฝ่าย
จะไม่ไปเกิดเป็นบัณเฑาะก์ เป็นกระเทยที่เป็นอภัพบุคคล บุคคลผู้นั้นเกิดในภพใดๆ
ก็จะมีอวัยวะน้อยใหญ่บริบูรณ์ จะมีรูปทรงสัณฐานงามดีดุจทองธรรมชาติ
เป็นที่เลื่อมใสแก่มหาชนผู้ได้ทัศนาไม่เบื่อหน่าย จะเป็นผู้มีอายุคงทนจนถึงอายุขัยจึงจะตาย
จะเป็นคนมีศีลศรัทธาธิคุณบริบูรณ์ในการบริจาคทานไม่เบื่อหน่าย จะเป็นคนไม่มีโรค-พยาธิเบียดเบียน
สรรพอันตรายความจัญไรภัยพิบัติ สรรพอาพาธที่บังเกิดเบียดเบียนกายก็จะสงบระงับดับคลายลงด้วยคุณานิสงส์
ผลที่ได้สวดมนต์ ได้สดับฟังพระสูตรนี้ด้วยประสาทจิตผ่องใส
เวลามรณสมัยใกล้จะตายไม่หลงสติจะดำรงสติไว้ในทางสุคติ เสวยสุขสมบัติตามใจประสงค์
นรชนผู้ใดเห็นตามโดยชอบซึ่งพระสูตรเจือปนด้วยพระวินัยพระปรมัตถ์มีนามบัญญัติชื่อว่า อาการวัตตาสูตร
มีข้อความดังได้แสดงมาด้วยประการฉะนี้

คำนมัสการสมเด็จองค์ปฐม ฉบับวัดท่าซุง

คำนมัสการสมเด็จองค์ปฐม ฉบับวัดท่าซุง
วันทามิ พุทธัง ภะวะปารระตินณัง ตีโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง โยโลกะเสฎโฐ สะกะลัง กิเลสัง เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อนันตังฯ ตะมะหัง องค์ปฐม พุทธัง อภิปูชะยามิ ตะมะหังพุทธัง เม สิรสา นมามิ มหากรุณิโก นาโถ อัตถายะหิตายะ สุขายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตะวา ปารมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตมัง สัพพะสัตตุปสัคคา สัพพุปัททะวันตรายะ นิวาระณะสะมัตถัสสะ สุคะตะมะมิตะพุทธิง โลกะนาถัง ปูชิตะวา ปุญญัสสิทานิ กตัสสะ ยานัญญานิ กตานิ เม กุสะละมุปะจิตัง ยันเตนะ เตชุสสะเทนะ จะ ตัสสะ ปารมิเตเชนะ วิละยะมุปะนะยันตะ สัพพุปัททะวา สะทา มหาลาโภ ภะวันตุเม เตสัง สัจเจนะ สีเลนะ ขันติเมตตาพเลนะ จะ เตปิ อัมเห อนุรักขันตุ อโรคะเยนะ สุเขนะ จะ สะทา อัมเห รักขันตุ สุรักขันตุ นุรุปัททะวา สันตุปะสัคคา วูปะสะเมนตุ โน
แปล
ข้าพเจ้าขอนมัสการพระพุทธเจ้า ผู้ข้ามพ้นผั่งแห่งภพ ผู้เป็นธงชัยแห่งโลกทั้งสามผู้เป็นที่พึ่งเอกของสามภพ ผู้ประเสริฐในโลก ตัดกิเลสทั้งสิ้นได้แล้ว ช่วยปลุกชนหาที่สุดมิได้ ให้ตื่น ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่งเฉพาะสมเด็จองค์ปฐมพุทธเจ้า ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมสมเด็จฯด้วยเศียรเกล้า พระบรมโลกนาถประกอบแล้วด้วยพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ ยังบารมีทั้งสิ้นให้เต็มแล้วเพื่อประโยนช์เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่สัตว์ทั้งปวง ได้บรรลุแล้วซึ่งพระโพธิญาณอันอุดม พระองค์สามารถในอันห้ามเสียซึ่งความเดือดร้อน อุปสรรค และอุปัทอันตราย ทั้งปวง กุศลใดเราบูชาแล้วซึ่งสมเด็จองค์ปฐมสุคตโลกนาถเจ้า ผู้มีพระปัญญานับไม่ได้ บุญอันข้าพเจ้าทำแล้ว ณ กาลบัดนี้ด้วย บุญทั้งหลายอื่น อันข้าพเจ้าทำแล้วในกาลก่อน สร้างสมแล้วด้วยเดชอันแรงกล้าแห่งกุศลนั้นและด้วยเดชแห่งบารมีของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สรรพอุปัทวะ จงถึงความพินาศไป ขอลาภใหญ่ จงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วย สัจจะ ด้วยศีล ด้วยพลังแห่งขันติ และเมตตา ของพระพุทธเจ้านั้น แม้คุณธรรมเหล่านั้น จงตามรักษาซึ่งเราทั้งหลาย ด้วยความเป็นผู้ไม่มีโรค ด้วยความสุข รักษา เราทั้งหลายเป็นอันดี ทุกเมื่อ ให้ไม่มีอุปัทวะ แม้ความเดือดร้อนและอุปสรรทั้งหลายของเราจงสงบไป
__________________

(f) คำสอนสมเด็จองค์ปฐมฯ(f)
"ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องลงอบายภูมิมีนรกเป็นต้น เป็นของไม่ยาก"
1. ขอทุกท่านจงอย่าลืมความตาย จงคิดว่าความตายอาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอๆ
2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยความศรัทธาแท้ ด้วยความจริงใจ
3. มีศลีบริสุทธิ์เป็นปกติ
4.เป็นกรณีพิเศษ ปฎิเสธการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหมในชาติต่อไป ทุกท่านเห็นพระนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะเท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้นและไปนิพพานได้ในที่สุด

ขึ้นตอนการเดินจงกรม วิธีนั่งสมาธิ พระอาจารย์วิริยังค์

ขั้นตอนของการเดินจงกรม
๑. กำหนดเส้นทางจงกรม
๒. ยืนตรงจุดเริ่มต้นทางเดินจงกรม พนมมือระหว่างอกแล้ว หลับตากล่าว คำอธิษฐานเดินจงกรม ว่า
" เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา "
ขอให้ใจของข้าพเจ้าจงสงบเป็นสมาธิ
ยกมือที่พนมสูงขึ้นระหว่างคิ้ว กล่าวในใจว่า "สาธุ"
๓. เอามือลง ใช้มือขวาจับมือซ้าย ห้อยมือพอสบายไม่เกร็ง
๔. กำหนดจิตไว้ที่หน้าผาก ไม่ต้องหลับตา ตามองทางเดินจงกรมไกลว่าตัวประมาณ ๑.๕ - ๒ เมตร
๕. เริ่มบริกรรมคำว่า " พุทโธ ๆ " อยู่ในใจ พร้อมก้าวเท้าขวาเดินตามด้วยเท้าซ้าย ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เดินในลักษณะเดินปกติ
๖. เมื่อเดินสุดทางจงกรม ให้ค่อย ๆ หมุนตัวกลับทางขวา ยืนทรงตัวตรง แล้วจึงเริ่มก้าวด้วยเท้าขวาเหมือนตอนเริ่มต้น
๗. เมื่อครบตามเวลาทำกำหนด ให้ยืนตรงจุดเริ่มต้นเดิน พนมมือระหว่างอก กล่าวในใจว่า
" สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ "
ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข ๆ เถิด
แล้วยกมือที่พนมขึ้นระหว่างคิ้วแล้วกล่าวในใจว่า " สาธุ " เป็นอันจบพิธีการเดินจงกรม
วิธีนั่งสมาธิ
นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย ตั้งกายตรง ยกมือพนมระหว่างอก กล่าวคำอธิษฐานสมาธิ
" ข้าพเจ้า ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้เจ้าของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ธัมโม สังโฆ ... พุทโธ ๆ ๆ
เอามือลง วางบนตัก มือขวาทับมือซ้าย หลับตาเบา ๆ บริกรรม พุทโธ ๆ ๆ ........ ในใจจนกว่าจะเลิก ตามเวลาที่กำหนด
หลังจากนั้นให้ตั้งใจสวดแผ่เมตตาพิเศษ ดังนี้
สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ, อะเวรา สุขะชีวิโน
ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง ผะลัง มัยหัง, สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต
ขอให้สัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญ อันที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนั้นเทอญ

รูปฌาน 4

ฌาน ๒ (การเพ่ง, การเพ่งพินิจด้วยจิตที่เป็นสมาธิแน่วแน่ — meditation; scrutiny; examination)

๑. อารัมมณูปนิชฌาน (การเพ่งอารมณ์ ได้แก่ สมาบัติ ๘ คือ รูปฌาน ๔ และ อรูปฌาน ๔ — object-scrutinizing Jhana)

๒. ลักขณูปนิชฌาน (การเพ่งลักษณะ ได้แก่ วิปัสสนา มรรค และผล — characteristic-examining Jhana)

วิปัสสนา ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะพินิจสังขารโดยไตรลักษณ์
มรรค ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะยังกิจแห่งวิปัสสนานั้นให้สำเร็จ
ผล ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะเพ่งนิพพานอันมีลักษณะเป็นสุญญตะ อนิมิตตะ และอัปปณิหิตะ อย่างหนึ่ง และเพราะเห็นลักษณะอันเป็นสัจจภาวะของนิพพาน อย่างหนึ่ง

ฌานที่แบ่งเป็น ๒ อย่างนี้ มีมาในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา.
ดู [๘] [๙] [๑๐] ฌาน ต่าง ๆ และ [๔๗] สมาธิ ๓

AA. II. 41; PsA.281; DhsA. 167. องฺ.อ. ๑/๕๓๖; ปฏิสํ.อ. ๒๒๑; สงฺคณี.อ. ๒๗๓


--------------------------------------------------------------------------------


(๘) ฌาน ๒ ประเภท (ภาวะจิตที่เพ่งอารมณ์จนแน่วแน่ — absorption)

๑. รูปฌาน ๔ (ฌานมีรูปธรรมเป็นอารมณ์, ฌานที่เป็นรูปาวจร — Jhanas of the Fine-Material Sphere)

๒. อรูปฌาน ๔ (ฌานมีอรูปธรรมเป็นอารมณ์, ฌานที่เป็นอรูปาวจร —Jhanas of the Immaterial Sphere)

คำว่า รูปฌาน ก็ดี อรูปฌาน ก็ดี เป็นคำสมัยหลัง เดิมเรียกเพียงว่า ฌาน และ อารุปป์.

D.III. 222; Dhs. 56. ที.ปา. ๑๑/๒๓๒/๒๓๓; อภิ.สํ. ๓๔/๑๙๒/๗๘.


--------------------------------------------------------------------------------


(๙) ฌาน ๔ = รูปฌาน ๔ (the Four Jhanas)

๑. ปฐมฌาน (ฌานที่ ๑ — the First Absorption) มีองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา

๒. ทุติยฌาน (ฌานที่ ๒ — the Second Absorption) มีองค์ ๓ คือ ปีติ สุข เอกัคคตา

๓. ตติยฌาน (ฌานที่ ๓ — the Third Absorption) มีองค์ ๒ คือ สุข เอกัคคตา

๔. จตุตถฌาน (ฌานที่ ๔ — the Fourth Absorption) มีองค์ ๒ คือ อุเบกขา เอกัคคตา

คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรม นิยมแบ่งรูปฌานนี้เป็น ๕ ขั้น เรียกว่า ฌานปัญจกนัย หรือ ปัญจกัชฌาน โดยแทรก ทุติยฌาน (ฌานที่ ๒) ที่มีองค์ ๔ คือ วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา เพิ่มเข้ามา แล้วเลื่อนทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตฌาน ในฌาน ๔ ข้างต้นนี้ออกไปเป็น ตติยฌาน จตุตถฌาน และปัญจมฌาน ตามลำดับ (โดยสาระก็คือ การจำแนกขั้นตอนให้ละเอียดมากขึ้นนั่นเอง)

M.I.40 ม.มู. ๑๒/๑๐๒/๗๒

บทสวดพระมหาจักรพรรดิ ... ท่าซุง...อ.ชุมพล

ตั้งสัจจะอธิษฐาน
ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขออารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม บารมีรวมพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต มีบารมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด บารมีรวมหลวงตาม้า เป็นต้น
ขอบารมีหลวงปู่ดู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำภพภูมิต่าง ๆ ทั้งหลายในทั่วทั้ง ๓ แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ ๖ ชั้น พรหม ๒๐ ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทร โดยทั่วทั้งแสนหมื่นโกฏิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่ท่านย่าพระอินทร์ ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ พระยายมราชพร้อมบริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุก ๆ พระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลายที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย ฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุก ๆ จังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พญาครุฑ และพญานาคพร้อมบริวาร คนธรรณ์ ชาวเมืองลับแล และสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ และกายทิพย์ของผู้ที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทั้งสามแดนโลกธาตุ กายทิพย์ของคนในครอบครัวข้าพเจ้า ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิกับข้าพเจ้าด้วยเถิด

คำอัญเชิญภพภูมิ
ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขอ

อาราธนาเมตตาบารมีรวม
หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอหลวงปู่ได้โปรดมี
เมตตา อาราธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยตั้งแต่องค์ปฐม

จนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุกๆ
พระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระ
โพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้ง
หลาย โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ

อนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่

ท่านอันเป็นที่สุด บารมีรวมหลวงตาม้าเป็น

ต้น ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำ

ภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดน

โลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้น

พรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุก ชั้นฟ้า

มหาสมุทรโดยทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาล

เทพพรหมเทวา
ที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตา

ม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับ

ข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ

อนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าว

จตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วย

บริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆ

พระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอย

ปกป้อง รักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะ

ทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาล

เจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้องเมือง

พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี

แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิงพระ

พาย พระพิรุณ พญาครุฑ พญานาคพร้อม

ด้วยบริวาร คนธรรณ์ ชาวเมืองลับแลและสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่

ข้าพเจ้าเคยได้ไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้

โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลาย มาร่วม

สวดบทพระมหาจักรพรรดิ เพื่อเพิ่มกำลัง

พร้อมกันกับข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วย

เถิด






บทบูชาพระ
พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ ข้าพเจ้าบูชาพระพุทธเจ้าด้วยชีวิต
ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ ข้าพเจ้าบูชาพระธรรมเจ้าด้วยชีวิต
สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ ข้าพเจ้าบูชาพระสงฆ์เจ้าด้วยชีวิต

กราบพระ ๖ ครั้ง
พุทธัง วันทามิ (กราบ)
ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
สังฆัง วันทามิ (กราบ)
ครูอุปัชฌาย์อาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)
พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)


บทสมาทานศีล ๕
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อพรัมมจริยา เวระมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
สุราเมระยะ มัชชปมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ (๓ ครั้ง)
สีเลนะ สุขะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา สีเลนะ นิพพุตติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย

บทอาราธนาพระ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ
สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ

คาถาหลวงปู่ทวด
น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ ครั้ง)
คาถาหลวงปู่ดู่
น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่าคาถาดังนี้
นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (๓ ครั้ง)
บทขอขมาพระรัตนตรัย
โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา
ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา
ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา
ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

บทสวดพระมหาจักรพรรดิ
***สวดตามกำลังวัน ***
วันอาทิตย์สวด ๖ จบ วันจันทร์สวด ๑๕ จบ วันอังคารสวด ๘ จบ วันพุธสวด ๑๗ จบ
วันพฤหัสบดีสวด ๑๙ จบ วันศุกร์สวด ๒๑ จบ วันเสาร์สวด ๑๐ จบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)
นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต
อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

อธิษฐานจิตแผ่บุญ
ขออาราธนาอัญเชิญบารมี สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จองค์ปัจจุบัน พระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรมบารมีพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต มีบารมีรวมหลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด ตลอดจนคุณความดี บารมีที่ข้าพเจ้าเคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา ขอรวมกำลังบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่ออกไปทั่วทั้ง ๓ แดนโลกธาตุ แผ่ไปยังผู้ที่อธิษฐานจิตขอความช่วยเหลือ จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ผู้มีพระคุณต่อข้าพเจ้าและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอหลวงปู่ส่งวิญญาณปรับภพภูมิทั้งหมด และ ครอบวิมานแก้วให้กับข้าพเจ้า ผู้ที่เกี่ยวพันกับข้าพเจ้าทั้งหมดทั้งมวลทั่วทั้ง ๓ แดนโลกธาตุ

บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่เมตตา)
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะ รักขังพันธามิ สัพพะโส (๕ ครั้ง)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
(อธิษฐานตามปรารถนา)


อธิษฐานจิตแผ่บุญให้แผ่นดิน
ขออาราธนาอัญเชิญบารมี สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จองค์ปัจจุบัน พระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรมบารมีพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต มีบารมีรวมหลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด ขอได้โปรดรวมกำลังพระมหาจักรพรรดิที่ข้าพเจ้าได้สวดทุกวัน เพื่อเป็นกำลังบุญ แผ่ให้กับประเทศไทย (นึกถึงแผนที่ประเทศไทยทั้งเก่าและใหม่) และพระเจ้าแผ่นดิน พระสยามเทวาธิราช และผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุและเทพ พรหม เทวาทั้งหลายโดยทั่วทั้งแสนหมื่นโกฏิจักรวาลและ ที่คุ้มครองรักษาข้าพเจ้าตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต

บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่เมตตา)
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะ รักขังพันธามิ สัพพะโส (๓ ครั้ง)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
(อธิษฐานตามปรารถนา)

อธิษฐานจิตรวมบุญ
ขออาราธนาอัญเชิญบารมี สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จองค์ปัจจุบัน พระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรมบารมีพระโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต มีบารมีรวมหลวงปู่ดู่ เป็นที่สุด ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้าที่ได้กระทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา ให้มารวมกันขณะนี้เป็นกำลังเพื่อพระศาสนา และเพื่อเบิกมาใช้ให้มีความคล่องตัวในทุกเรื่อง อันใดติดขัดขอให้คล่องดั่งน้ำที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใดคล่องตัวอยู่แล้วขอให้คล่องตัวยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยขึ้นชื่อว่าความอด ความอยาก ความยาก ความไม่มี ความไม่รู้ ไม่สำเร็จ โรคภัยไข้เจ็บจงอย่าได้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธศาสนาตั้งแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด

บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่เมตตา)
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะ รักขังพันธามิ สัพพะโส (๕ ครั้ง)
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
(อธิษฐานตามปรารถนา)







บทสวดมนต์พระมหาจักรพรรดิ
วัดถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
www.watthummuangna.com
หลวงตาม้า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
(ให้สวดเวลา 20.30 น. ของทุกวัน)
คำอัญเชิญภพภูมิ
ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขอ

อาราธนาเมตตาบารมีรวม
หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอหลวงปู่ได้โปรดมี
เมตตา อาราธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยตั้งแต่องค์ปฐม

จนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุกๆ
พระองค์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระ
โพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้ง
หลาย โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ

อนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่

ท่านอันเป็นที่สุด บารมีรวมหลวงตาม้าเป็น

ต้น ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำ

ภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดน

โลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้น

พรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุก ชั้นฟ้า

มหาสมุทรโดยทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาล

เทพพรหมเทวา
ที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตา

ม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับ

ข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ

อนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าว

จตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วย

บริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆ

พระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอย

ปกป้อง รักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะ

ทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาล

เจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้องเมือง

พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี

แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิงพระ

พาย พระพิรุณ พญาครุฑ พญานาคพร้อม

ด้วยบริวาร คนธรรณ์ ชาวเมืองลับแลและสิ่ง

ศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่

ข้าพเจ้าเคยได้ไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้

โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลาย มาร่วม

สวดบทพระมหาจักรพรรดิ เพื่อเพิ่มกำลัง

พร้อมกันกับข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วย

เถิด

2
บทบูชาพระ
พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
3
กราบพระ 6 ครั้ง
พุทธัง วันทามิ (กราบ)
ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
สังฆัง วันทามิ (กราบ)
ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)
พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)
4
บทไตรสรณคมณ์ บทสมาทานศีล 5
.....ตั้งนะโม 3 จบ.....
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ปานาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
สุราเมรยะ มัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ

( 3 ครั้ง )
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะ

สัมปทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมาสีลัง

วิโส ธะเย
5
บทอาราธนาพระ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
ธัมมัง อาราธนา กะโรมิ สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ
6
คาถาหลวงปู่ทวด
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( 3 ครั้ง)
คาถาหลวงปู่ดู่
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ ( 3 ครั้ง )
7
บทขอขมาพระรัตนตรัย
โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
8
บทสวดมหาจักรพรรดิ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
สวดตามกำลังวัน เช่น สวดวันอาทิตย์ ให้สวด 6 จบ
วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธ 17 จบ
วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ วันเสาร์ 10 จบ
นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
9
บทอัญเชิญพระเข้าตัว

(แผ่เมตตา)

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส ( 5 จบ )
*พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆัง อธิษบามิ*(ให้อธิษฐานเอา)
10
คำอธิษฐานฝึกจิตเร่งสมาธินิมิต
ข้าพเจ้า.....(นาม)..ผู้เป็นข้ารับใช้

แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำ

บารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า

พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์และ

พระบรมมหาจักรพรรดิตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน

และอนาคต ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกัน

มา โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญ

โญเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า

ขึ้นสู่สภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติ

ทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิด

ปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร

ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาวะ

เมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวการณ์

ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน

ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอ

ให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และ

พยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ

เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้

ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้

แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา....
11
คำอธิษฐานรวมบุญ
ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระ

มหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต

ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีแห่งองค์

พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหา-จักรพรรดิ

เป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิ

ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้

โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า..(นาม)..เพื่อ

เบิกมาใช้ให้มีความคล่องตัวในทุกๆเรื่อง

อันใดติดขัดขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออก

จากคนโท ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใด

คล่องตัวอยู่แล้ว ขอให้คล่องตัวยิ่งๆขึ้น โดย

ขึ้นชื่อว่า ความอด ความอยาก ความยาก

ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในขัพเจ้า

ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่

กาลบัดเดี๋ยวนี้ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระ

นิพนานด้วยเถิดและโดยเฉพาะกาลนี้ขอให้

มีความคล่องตัวในเรื่อง...(อธิษฐานพิเศษ

เอาเอง)..
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว

สัพเพพุทธา....
12


คำอธิษฐานถอนคำสาปแช่งต่อปัจจุบันชาติ-อดีตชาติ
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ตติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ข้าพเจ้าขอถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ที่

ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นถึงพร้อมแล้วด้วยกิเลส

ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน ด้วยราคะ ด้วยโทสะ

ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไป

เพื่อความพยาบาท เบียดเบียน สร้างเวรสร้าง

กรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วย

วินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วย

ปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้

อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี

ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี

ทั้งหมดทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอน้อมเอาพระ

พุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า

แม่พระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพาย

และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยานว่า

ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปเหล่านั้น ถอนคำแช่ง

เหล่านั้น ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญฯ

นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน

นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน

ยะคลอน ถอนด้วย นะโมพุทธายะ
ข้าพเจ้าขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัย

ความบกพร่อง ผิดพลาดของสรรพสัตว์ทั้ง

หลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิต ทุกวิญญาณ

ทุกที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อทอญฯ
หากผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ตั้งแต่

อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติก็ดี และคนรัก

ชอบข้าพเจ้าก็ดี หากมีผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายกับ

ข้าพเจ้าและสาปแช่งข้าพเจ้าไว้ทั้งทางลับ

ทางแจ้ง ขอให้สิ่งนั้นอย่าเป็นโทษ เป็นกรรม

แก่กันและกันเลย หากมีสิ่งใดอยู่ในตัว

ข้าพเจ้า สังขารข้าพเจ้า ขอให้ออกไป

ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย สาธุ สาธุ

สาธุ และขอให้กุศลที่ข้าพเจ้าถอนคำสาปแช่ง

นี้ ขอให้สิ่งเหล่านี้เป็นกุศลกลับมาให้ชีวิต

ข้าพเจ้ามีความสงบ ความสว่าง ความสุข

และเจริญ รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ

สมความปรารถนาทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้

เป็นต้นไปเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ



อิมินา สักกาเรนะ องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดา อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังพุทธธัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังธรรมมัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ ตังสังฆัง อภิปูชะยามะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ มาตาปิตุคุณัง ปูเชมะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ คุณครูอาจารย์คุณัง ปูเชมะ (กราบ)
อิมินา สักกาเรนะ เทพไท้เทวาคุณัง ปูเชมะ (กราบ)

คำอาราธนาองค์พระบรมธรรมบิดาองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าและท่านผู้มีพระคุณทุกท่านทั้ง 3 โลก

ข้าแต่องค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา ผู้มีพระมหาเมตตาแก่ปวงสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ข้าแต่องค์สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระคุณมากล้นสุดที่จะพรรณนา ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอมอบกายถวายชีวิต ทำคุณงามความดีเพื่อองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระโลกเชษบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อพระนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางในชาตินี้ ลูกๆเหล่าพุทธบริษัท ขอน้อมกราบแทบพระบาทพระจอมไตรบรมธรรมบิดา ด้วยความขอบพระคุณในพระมหากรุณาธิคุณ ลูกขอกราบโมทนาบุญบารมีอันสูงส่ง ขออาราธนาอัญเชิญบุญบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธปฐมบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ขอได้โปรดเสด็จมารับเครื่องสักการะบูชามีบายศรีดอกไม้ธูปเทียน อาหารที่ลูกๆ จัดหามาน้อมถวาย ด้วยความเคารพรักบูชาอย่างสูงสุด ขอได้โปรดเมตตาประทานอภัย ในสิ่งที่ลูกกระทำผิดพลาดพลั้งไปด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาตินี้ ลูกๆขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอบวชจิตเป็นลูกศิษย์พระตถาคตเจ้าด้วยการมีศีล 5 ครบ เคารพพระรัตนตรัย ไม่หลงใหลติดใจในร่างกายตนเองและทรัพย์สินใดๆในโลกมนุษย์เทวดาพรหม ขอมีพระนิพพานเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิต
ลูกขอกราบอาราธนาอัญเชิญพระบารมี องค์สมเด็จพระพุทธชินศรีพระบรมธรรมบิดา องค์สมเด็จพระสัพพัญญูพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมด้วยแสงทิพย์อริยทรัพย์รวมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ ลูกขออัญเชิญพระอริยะสงฆ์เจ้าทุกๆ พระองค์ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ มีองค์หลวงปู่ปานและองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ได้โปรดเมตตาสอนวิชชามโนมยิทธิกรรมฐาน ให้ลูกหลานเข้าใจในสภาวะพระนิพพานอย่างถูกต้องและง่ายดาย ลูกขอกราบอัญเชิญคุณพ่อคุณแม่ผู้มีพระคุณมากล้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงพระโพธิสัตว์ เจ้าพระศาสดาเจ้าทุก ๆ ศาสนา คุณครูบาอาจารย์ เทพไท้เทวาพรหมมาฟ้าดิน พระแม่เจ้าธรณีพระแม่โพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พระแม่คงคา เทพเจ้าทุกๆ ศาสนาที่ดูแล ปกปักรักษาโลกทั้ง 3 รวมทั้งอนันตสุริยะจักวาล มีองค์ท่านท้าวจาตุรมหาพรหม คือ ท่านปู่สหัมบดีพรหมผู้เป็นเลิศทางมหาเมตตา ท่านปู่มหาพรหมวิสุทธิทศพลมหาภารตะ ผู้เป็นเลิศ ประเสริฐมีฤทธิ์ในทุกวิธีการท่านปู่ชินปัญชระมหาพรหม ผู้เป็นเจ้าของพระคาถาชินบัญชรเป็นเลิศทางพิธีกรรม ท่านปู่ผกาพรหม ผู้เป็นเลิศทางปัญญาในพรหมทั้ง 16 ชั้น มีองค์ท่านท้าวสักกะเทวราชและคู่บารมีคือท่านย่าพังคราณี ผู้มีมหาเมตตาจิตดูแลเทวดาทั้ง 6 ชั้น รวมทั้งมนุษย์ สัตว์ สัมภเวสี มีท่านผู้เป็นใหญ่คอยควบคุมดูแล ผี เทวดา คน สัตว์ทั้ง 4 ทิศ คือ ท่านท้าวจาตุรมหาราช มีองค์ท่านท้าวธตรฐมหาราช
ผู้เป็นใหญ่แห่งคนธรรพ์ ดูแลทิศตะวันออก ท่านท้าววิรุฬหกมหาราชหรือท่านท้าวพระยาครุฑ ผู้เป็นใหญ่แห่งกุมภัณฑ์ ดูแลทางทิศใต้ องค์ท่านวิรูปักษ์ มหาราชผู้เป็นใหญ่แห่งนาคทั้งหลาย ดูแลทางทิศตะวันตก องค์ท่านท้าวเวสสุวัณ มหาราชผู้เป็นใหญ่แห่งยักษ์ทั้งหลาย ดูแลทางด้านทิศเหนือ ขออัญเชิญทุกๆ พระองค์เสด็จมาเป็นมหามงคลร่วมงานพิธีครั้งนี้โดยทั่วกัน
ขออัญเชิญเทพพรหมทั้งหมดทุกชาติทุกศาสนา ซึ่งสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น พรหม 16 ชั้น ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพและภูมิเทวดา เจ้าที่ ซึ่งสถิตอยู่ในวิมาน บนยอดเขา หุบเขา ในอากาศ ในเกาะ ในแว่นแคว้น ในบ้าน บนต้นไม้ ในไร่นาตลอดจนถึงยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ นาคและกุมภัณฑ์ ซึ่งสถิตอยู่ในน้ำ บนบก ในอากาศ บนพื้นที่ไม่ราบเรียบ ที่ใกล้หรือไกล ที่สำคัญก็คือท่านท้าวพระยายมราช ผู้เป็นใหญ่ใจดี มีฤทธิ์มากในยมโลก ขออัญเชิญทุกท่านมาพร้อมกันในที่นี้และลูกขอองค์ท่านปู่พระยายมราชและเทพเทวดาทุกท่าน ที่ดูแลสถานที่ยมโลก รวมทั้งนายนิริยบาลทุกท่าน ขอได้โปรดมาโมทนาและเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของลูกๆ ทั้งหลายในที่นี้ แล้วขอไปบอกกล่าวแก่ทุกๆ ท่านในยมโลกให้ได้โมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ด้วย
ลูกๆ กราบอาราธนาขออัญเชิญพระเมตตาบารมี ท่านผู้มีพระคุณทั้งหมดทุกๆ พระองค์เบื้องบนนิพพาน ได้โปรดเมตตาเสด็จลงมารับเครื่องสักการะบูชา ที่พวกลูกๆ เหล่าพุทธบริษัทตั้งใจน้อมนำถวายเป็นพระบรมธรรมบิดาบูชา พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา มาตาปิตุบูชา คุณครูอาจารย์บูชาเทพพรหมเทวดาบูชา ด้วยความรักเคารพอย่างสูงสุด เพื่อประโยชน์สันติสุขของชาวมนุษย์โลก รวมทั้งเหล่าผีสัมภเวสีเร่ร่อนพเนจร จะได้มีบุญสัมผัสเห็นแสงสว่างของแสงทิพย์นิพพาน รวมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการและแสงแห่งบุญบารมีขององค์พระอริยะเจ้า เทพพรหมทุกพระองค์ ลูกๆขอให้ดวงจิตวิญญาณทุกๆ ท่านใน3โลก มีนรกโลก มนุษย์โลก เทวพรหมโลกได้มีบุญวาสนาบารมี รับพลังแสงทิพย์อริยะธรรม กันทุกๆ ดวงจิต เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ลูกๆ พุทธบริษัท มารวมกันตั้งจิตอธิษฐาน ขอปฏิญาณตนเป็นคนดี มีศีล5ครบ ไม่คิดเบียดเบียนใครในกรรมบถทั้ง10 มีสัจจะ ความจริงใจ มีเมตตาเคารพรักบูชาในพระรัตนตรัย ไม่สงสัยในพระธรรมวินัย คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระพุทธชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า มีจิตตั้งมั่นในพระนิพพาน เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของชีวิตอุทิศตนทำงานเพื่อประโยชน์สุขของตนเอง ครอบครัว ชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความขยันหมั่นเพียรทางกายคือทางโลก ขยันทางจิตคือทางธรรมด้วยการไม่หลงใหลติดใจในร่างกายตนเองและผู้อื่น ไม่หลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสของสรรพสิ่งในโลกมนุษย์ เป็นของสมมุติทั้งสิ้น ขยันแผ่เมตตา ฝากบุญกุศลไปกับพลังแสงทิพย์อริยธรรมกับแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ ขอให้แสงทิพย์น้อมนำดวงจิตสรรพสัตว์ในอบายภูมิทั้ง4 ได้หลุดพ้นจากความหลงผิด ยึดติดในความชั่วบาปกรรมทั้งหลาย ขอให้ทุกท่านโมทนาได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติในอบายภูมิทั้ง 4
ด้วยเดชเดชะแห่งองค์พระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดานุภาพ พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ ขอได้โปรดเมตตาพุทธาภิเษกทุกๆดวงจิต ของเทพพรหม คน ผี เปรต อสุรกาย สัตว์นรก รวมทั้งวัตถุมงคล อาหาร ผลไม้ น้ำ สิ่งของทุกชนิด ที่ลูกๆน้อมนำมาถวาย ขอให้กลับกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีพลังแสงทิพย์อริยธรรม มีผลานุภาพของแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ เพื่อน้อมนำดวงจิตทุกๆสรรพสัตว์ คน เทวดา พรหม เข้าเป็นพระอริยมรรคอริยผลเป็นพระอริยบุคคลในพระศาสนา พ้นจากวัฏฏะสงสารเข้าพระนิพพานโดยฉับพลันทันใด ด้วยอานิสงส์ที่ลูกพุทธบริษัททุกคนได้มาร่วมกันปฏิบัติบูชา เป็นมหามงคลสูงสุดในชีวิต ขอให้ลูกมีความสุขกายสุขใจ อย่าได้มีคำว่า ไม่มี ไม่ได้ไม่หายจากโรคภัย ไม่พ้นอันตราย ไม่พ้นบาปกรรม ไม่ได้ช่วยคนทั้งทางโลกทางธรรม ไม่สำเร็จขออย่าได้มี ในชีวิตอันเป็นสุดท้ายของลูกนี้ขอให้ลูกได้ตายรวดเร็วทันใจ ก่อนตายไม่ทุกข์ทรมานจนเกินไป ขออัญเชิญพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดเมตตาเสด็จมารับจิตวิญญาณของลูกทุกคนกลับบ้านพระนิพพานด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า



บทบูชาพระ
พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ
3
กราบพระ 6 ครั้ง
พุทธัง วันทามิ (กราบ)
ธัมมัง วันทามิ (กราบ)
สังฆัง วันทามิ (กราบ)
ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ)
มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ)
พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ)
4
บทไตรสรณคมณ์ บทสมาทานศีล 5
.....ตั้งนะโม 3 จบ.....
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ปานาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
สุราเมรยะ มัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ

( 3 ครั้ง )
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะ

สัมปทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมาสีลัง

วิโส ธะเย
5
บทอาราธนาพระ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ
ธัมมัง อาราธนา กะโรมิ สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ
6
คาถาหลวงปู่ทวด
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ทวด แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา ( 3 ครั้ง)
คาถาหลวงปู่ดู่
(ให้น้อมรำลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วว่าคาถา ดังนี้)
นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ ( 3 ครั้ง )
7
บทขอขมาพระรัตนตรัย
โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม
กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
8
บทสวดมหาจักรพรรดิ
....ตั้งนะโม 3 จบ....
สวดตามกำลังวัน เช่น สวดวันอาทิตย์ ให้สวด 6 จบ
วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธ 17 จบ
วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ วันเสาร์ 10 จบ
นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
9
บทอัญเชิญพระเข้าตัว

(แผ่เมตตา)

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส ( 5 จบ )
*พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆัง อธิษบามิ*(ให้อธิษฐานเอา)
10
คำอธิษฐานฝึกจิตเร่งสมาธินิมิต
ข้าพเจ้า.....(นาม)..ผู้เป็นข้ารับใช้

แห่งพระพุทธองค์ ขอนอบน้อมและน้อมนำ

บารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า

พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์และ

พระบรมมหาจักรพรรดิตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน

และอนาคต ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกัน

มา โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญ

โญเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า

ขึ้นสู่สภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติ

ทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิด

ปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร

ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาวะ

เมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวการณ์

ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน

ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้วขอ

ให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และ

พยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการ

เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้

ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้

แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว สัพเพพุทธา....
11
คำอธิษฐานรวมบุญ
ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระ

มหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต

ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีแห่งองค์

พระสมเด็จองค์ปฐม บรมมหา-จักรพรรดิ

เป็นประธาน มีบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิ

ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้

โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า..(นาม)..เพื่อ

เบิกมาใช้ให้มีความคล่องตัวในทุกๆเรื่อง

อันใดติดขัดขอให้คล่อง ดั่งน้ำที่ไหลออก

จากคนโท ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ อันใด

คล่องตัวอยู่แล้ว ขอให้คล่องตัวยิ่งๆขึ้น โดย

ขึ้นชื่อว่า ความอด ความอยาก ความยาก

ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดมีในขัพเจ้า

ผู้เป็นผู้รับใช้แห่งพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่

กาลบัดเดี๋ยวนี้ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระ

นิพนานด้วยเถิดและโดยเฉพาะกาลนี้ขอให้

มีความคล่องตัวในเรื่อง...(อธิษฐานพิเศษ

เอาเอง)..
...แล้วกล่าวคำอัญเชิญพระเข้าตัว

สัพเพพุทธา....
12


คำอธิษฐานถอนคำสาปแช่งต่อปัจจุบันชาติ-อดีตชาติ
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ตติยัมปิ อิมัง มิจฉาอธิษฐานัง ปัจจุทรามิฯ
ข้าพเจ้าขอถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ที่

ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นถึงพร้อมแล้วด้วยกิเลส

ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน ด้วยราคะ ด้วยโทสะ

ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไป

เพื่อความพยาบาท เบียดเบียน สร้างเวรสร้าง

กรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วย

วินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วย

ปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้

อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี

ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี

ทั้งหมดทั้งสิ้น ข้าพเจ้าขอน้อมเอาพระ

พุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า

แม่พระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพาย

และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยานว่า

ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปเหล่านั้น ถอนคำแช่ง

เหล่านั้น ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เทอญฯ

นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน

นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน

ยะคลอน ถอนด้วย นะโมพุทธายะ
ข้าพเจ้าขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัย

ความบกพร่อง ผิดพลาดของสรรพสัตว์ทั้ง

หลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิต ทุกวิญญาณ

ทุกที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อทอญฯ
หากผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ตั้งแต่

อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติก็ดี และคนรัก

ชอบข้าพเจ้าก็ดี หากมีผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายกับ

ข้าพเจ้าและสาปแช่งข้าพเจ้าไว้ทั้งทางลับ

ทางแจ้ง ขอให้สิ่งนั้นอย่าเป็นโทษ เป็นกรรม

แก่กันและกันเลย หากมีสิ่งใดอยู่ในตัว

ข้าพเจ้า สังขารข้าพเจ้า ขอให้ออกไป

ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย สาธุ สาธุ

สาธุ และขอให้กุศลที่ข้าพเจ้าถอนคำสาปแช่ง

นี้ ขอให้สิ่งเหล่านี้เป็นกุศลกลับมาให้ชีวิต

ข้าพเจ้ามีความสงบ ความสว่าง ความสุข

และเจริญ รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ

สมความปรารถนาทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้

เป็นต้นไปเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
(จากหนังสือรวมคาถามหามงคลของพระ

พุทธเจ้าฉบับสมบูรณ์)

ชุมนุมสุดยอดพระคาถา9 (คำอธิษฐานจิตก่อนสวดมนต์ )
2009-11-10 12:03:27
คำอธิษฐานจิตก่อนสวดมนต์

ด้วยเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ...... ( ชื่อและนามสกุล ) ......
ขอบูชาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณพระ
อรหันต์เจ้า คุณพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ที่สำเร็จไปแล้ว มากกว่าเมล็ด
ทรายในท้องมหาสมุทรทั้งสี่ ตลอดจนเบื้องสูงทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน
คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง
หลาย เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าบ้านเจ้าเรือน ตลอดจนทุกท่าน
ที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขอเอาธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ ที่
บิดาและมารดาได้ปรุงแต่งให้ข้าพเจ้า เบื้องสูงสุดปลายเส้นผม ลงมาเบื้อง
ต่ำถึงกลางฝ่าเท้า เบื้องต่ำจากกลางฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงปลายเส้นผม
เนื้อ หนัง เส้นเอ็น กระดูก ตลอดจนหนังกำพร้า ขออธิษฐานเป็น
กำแพงแก้ว ๗ ชั้น ป้องกันมาร ในระหว่างที่ข้าพระพุทธเจ้าสร้างบารมี
เพื่อความรู้แจ้งแทงตลอด ในอรรถ ในธรรมของพระพุทธองค์ ท่านทั้ง
หลายที่เป็นมาร ข้าพระพุทธเจ้าขอให้ถอยออกไปร้อยโยชน์แสนโยชน์
อย่ามาเป็นมารแก่ข้าพระพุทธเจ้าเลย ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสังขารนี้
เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ข้าพระพุทธเจ้าจะสร้างบารมี ตาม
รอยพระบาทของพระพุทธองค์ ตั้งแต่ปัจจุบันนี้จนถึงพระนิพพานข้างหน้า
แม้นสังขารของข้าพระพุทธเจ้าจะแตกดับไป ด้วยอำนาจของอิทธิฤทธิ์
ขอให้ดวงจิตและดวงวิญญาณของข้าพระพุทธเจ้า เข้าสู่พระนิพพานทันที
ขออำนาจของบุญฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงปกป้องคุ้มครองรักษา ให้ข้า
พระพุทธเจ้าจงพ้นและชนะมาร ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าทำกิจได้สำเร็จทุก
ประการ สมดังคำอธิษฐาน ให้บรรลุถึงพระนิพพานในกาลปัจจุบัน ใน
อนาคตกาลเบื้องหน้า และเบื้องโน้นด้วยเทอญฯ .......
สาธุ ...... สาธุ ...... สาธุ ......
คำอธิษฐานจิต
คำอธิษฐานจิตผูกติดกับพระพุทธศาสนาแน่นหนาไม่มีประมาณ
อิริยาบททั้งสี่สำหรับวันหนึ่งคืนหนึ่งต้องแบ่งเวลาออกใช้เป็นข้อวัตรส่วนตัว อธิษฐานจิตในใจให้ดี ออกปากเสียงเบาๆ ก็ดี ก่อนนอนตอนสี่ทุ่มก็ดี ตื่นนอนตอนตีสามก็ดี หรือเดินจงกรมตอนแรกก็ดี หรือก่อนภาวนานั่งตอนแรกก็ดี แล้วแต่เห็นว่าเหมาะสมโอกาสเวลาของตนที่จะแบ่งไว้ใช้ให้นึกและว่าดังนี้
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย ขอขมาโทษต่อพุทธัมสงฆ์ด้วยกาย วาจา ใจ อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณเพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดกราบเท้าทูลถวายชีวิตจิตใจวาจา ปฏิบัติบูชาต่อพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย สกลกาย สกลวาจา สกลใจ เป็นสรรพมนุษย์สมบัติ เป็นสรรพสวรรค์สมบัติ เป็นสรรพพรหมสมบัติ เป็นสรรพนิพพานสมบัติ กราบเท้าทูลถวายพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกราบเท้าทูลถวาย สกลกาย สกลวาจา สกลใจ เป็นสรรพข้า เป็นสรรพทาสพุทธัมสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีประมาณ เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารโดยด่วนในชาตินี้เทอญ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ขอผูกขาดจองขาดกับสิ่งที่มีวิญญาณครองสิงอยู่ในสรรพไตรโลกธาตุทุกถ้วนหน้า ขอปราศจากสรรพเวรสรรพภัยแก่กันและกันเสมอภาคเหมือนหน้ากลองโดยมิได้ลำเอียงเลย และจงได้รับส่วนกุศลของข้าพเจ้าผูกขาดจองขาดอยู่ทุกเมื่อไม่มีประมาณจะพ้นจากกองทุกข์ในสงสารโดยด่วนสิ้นเชิงทุกถ้วนหน้า เทอญ ฯ
ระลึกได้ไม่ระลึกได้ก็ดี ปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรมอันใดที่เป็นธรรมอันหลุดพ้น ไม่กลับกลอกไม่เหลือเศษ ข้าพเจ้าก็ดี บรรดาท่านผู้เคารพรักปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาเพื่อหลุดเพื่อพ้นโดยด่วนในปัจจุบันชาติก็ดี จงหลุดพ้นจากอาสวะโดยเด็ดขาด ไม่มีเชื้อเหลืออยู่ทุกเมื่อเทอญ
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
คำอธิษฐานเมื่อออกรถและเดินทางไกล โดย พระชุมพล พลปญฺโ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๙

สาธุ พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์จงทุกประการเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระสาวกทุกองค์ พระโพธิสัตว์ทุกองค์ พรหมทุกองค์ เทวดาทุกองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน จงโปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ให้สะดวกปลอดภัยปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่พระศรีอาริย์ เจ้าแม่กวนอิม ท้าวสักกะเทวราช ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ท่านจงอนุโมทนาและจงโปรดเมตตาส่งเทวดาที่เป็นสัมมาทิฏฐิมาคุ้มครองรักษารถคันนี้ด้วยเทอญ
เทวดาองค์ใดที่โปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ในตอนนี้ก็ดี หรือที่จะมีเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ในโอกาสกาลต่อไปข้างหน้าก็ดี ข้าพเจ้าขอตั้งคำอธิษฐานจิตไว้ว่าขอให้ท่านได้มีส่วนในบุญกุศลทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้เคยบำเพ็ญมา ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติจงทุกประการด้วยเทอญ และขอให้ท่านจงโปรดเมตตาคุ้มครองรักษารถคันนี้และผู้โดยสารให้ปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง คิดประกอบกิจการอันใด ขอให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ด้วยเหตุแห่งบุญบารมีของท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตาบันดาลให้เป็นไปในกาลทุกเมื่อด้วยเทอญ
ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่จิตวิญญาณตลอดรายทางที่ข้าพเจ้าขับรถคันนี้ผ่านไป ขอให้ท่านจงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วจงทุกประการ และขอให้ท่านจงคุ้มครองรักษาปกป้องคุ้มกันภัยให้แก่รถคันนี้ให้ปราศจากอุปสรรคเภทภัยที่จะมาเบียดเบียนบีทาในตลอดทุกเส้นทางที่ขับผ่านไปในกาลทุกเมื่อด้วยเทอญ
พุทธัง ปสิทธิ ธัมมัง ปสิทธิ สังฆัง ปสิทธิ
ขอบารมี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า ประสิทธิให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้านี้สำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนาจงทุกประการเทอญ สาธุ
คำอธิษฐานเวลาทำบุญ
ขอบุญจาก............ธรรมทาน, สังฆทาน, วิหารทาน ...นี้ จงถึงแก่
เจ้ากรรมนายเวร และผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้าและครอบครัวที่มีมาถึงตัวทุกภพทุกภูมิ
ขอบุญนี้...จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
หากไม่ถึงเพียงใด ขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า
ขอให้เกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่นคง
และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ลึกซึ้ง ตลอดจนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ
ขอท่านพระยมราชจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญบุญของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ
คำขอขมาและอธิฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูปหรือสวดก่อนนอน
ตั้งนะโม 3 จบ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเมทันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระอรหันต์ทุกพระองค์
พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวรจะด้วย กาย วาจา ใจก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตนมา ขออนุญาต มีคู่มีครอบครัวเหมือนคนปกติทั่วไป
ขอถอนคำอธิฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู๋ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาล ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้า
และครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ
สุขะ พละ ลาภยศ สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และ ทางธรรม
ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคนสร้างเวรกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าชาติภพใดก็ตาม ข้าพเจ้า ยินดี อโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาตและคำสาปแช่งในทุกชาตทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปคำแช่ง ของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทางโลก และทางธรรมเทอญ
คำอธิษฐานเสริมดวง
คำอธิษฐานในการปล่อยปลา ปล่อยเต่า หรือสัตว์น้ำควรจะซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่า จะดีที่สุดก่อนที่จะปล่อยให้เอาน้ำมา 1ถ้วยเทลงไปในถังที่ใส่สัตว์ที่จะปล่อย แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า
ข้าพเจ้าชื่อ...........นามสกุล..........เกิดวันที่......เดือน......พ.ศ......อายุ ....ปี ได้ปล่อยสัตว์......จำนวน....ตัว ขอปล่อยท่านทั้งหลายให้เป็นอิสระ ข้าพเจ้าให้ชีวิตแก่ท่าน
ข้าพเจ้าได้ให้ความเป็นอิสระแก่ท่าน ข้าพเจ้าช่วยท่านให้พ้นจากความทุกข์เดือดร้อน พ้นจาการถูกเขาประหาร ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำให้แก่ท่านในครั้งนี้ จงเป็นเครื่องอโหสิแก่กัน อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองต่อไป ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้เมื่อข้าพเจ้าปล่อยท่านเป็นอิสระแล้ว
จงไปบอกพวกของท่านที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ ถึงส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ แล้วขออุทิศกุศลทั้งหมดที่ทำไปแล้วให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงเป็นผู้พ้นทุกข์จากความเดือดร้อนทั้งปวง และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด...
ผู้ที่ต้องการกุศลปล่อยสัตว์นั้น ควรพิจารณาด้วยว่าสัตว์นั้นๆ จะมีชีวิตอยู่รอดได้หรือไม่ในสถานที่ที่ท่านตั้งใจนำสัตว์เหล่านั้นมาปล่อย.......................
คำอธิษฐานปล่อยสัตว์
ข้าพเจ้าชื่อ...........นามสกุล..........เกิดวันที่......เดือน......พ.ศ......อายุ ....ปี ได้ปล่อยสัตว์......จำนวน....ตัว ปล่อยเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเอง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ศัตรู และเจ้ากรรมนายเวร ตัวที่เป็นที่พึ่งขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ข้าพเจ้า ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร
จงนำเอาสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร ออกไปจากตัวข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ขอให้แม่พระธรณี พระแม่คงคา เทพเทวา เจ้าที่เจ้าทาง และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย
จงเป็นสักขีพยานรับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครองชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย ด้วยอำนาจขอกุศลผลบุญครั้งนี้
จงสะเดาะเคราะห์ร้าย ของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสบความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตสดชื่น สุขสดใส ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ..
ผู้ที่ต้องการกุศลปล่อยสัตว์นั้น ควรพิจารณาด้วยว่าสัตว์นั้นๆ จะมีชีวิตอยู่รอดได้หรือไม่ในสถานที่ที่ท่านตั้งใจนำสัตว์เหล่านั้นมาปล่อย...
คำอธิษฐานจบทานเวลาทำบุญ
อิมัง เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ
ขอทานนี้จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สิ้นอาสวะกิเลส
อิมัง เม ทานัง นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ
ขอทานนี้จงป็นปัจจัย ให้แก่ข้าพเจ้าได้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันชาตินี้
ขอให้ได้มนุษย์สมบัติ ขอให้ได้สรรคสมบัติ
ขอให้ได้นิพพานสมบัติ จะนึกประสงค็สิ่งใด
ขอจงสมความปรารถนาทุกประการ
อันว่าโรคภัยไข้เจ็บความยากจนค่นแค้น และคำ ไม่มี ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้ประสบเลย..
คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำให้แก่ผู้ใดในชาติใดๆก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรรมให้ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย
แม้แต่กรรมใดที่ใครๆ ทำข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานครั้งนี้
ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงษาคณาญาติและผู้อุปการะคุณของข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ ปฏิบัติ แต่สิ่งดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ..
คำอธิษฐานขอพร
ข้าแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอน้อมอัญเชิญเทพยดาเจ้าทั้งหลาย
โปรดเสด็จมาฟังการสวดมนต์ของข้าพเจ้า ขออนุโมทนา และประสิทธิ์ประสาทพรให้ข้าพเจ้า...ด้วยเทอญ
ให้ตั้งนะโม 3 จบ และมนัสการพระรัตนตรัย พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน..
ขอพระองค์ทั้งหลาย จงประทานพรให้ข้าพเจ้า..พ้นจากสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร
จงพ้นจากตัวข้าพเจ้า..ด้วยเทอญ ...สาธุ
คาถาบูชาพญานาค
นะโมฯ 3 จบ
นะติตัง พญามะ นาคายะ อภินัง นาคา สาธุโนภันเต ยะมะ ยะมะ
บทระลึกถึงคุณสมเด็จพระพุทธองค์ศรีอริยเมตไตรย์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ จบ )
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โนโนโน นะโมพุทธายะ
อิกะวิติ พุทธะสังมิ อะระหังพุทโธ อะระหังธัมโม อะระหังสังโฆ
พุทโธอะระหัง ธัมโมอะระหัง สังโฆอะระหัง อะทิกะอะ ทะอะกะอิ ติฆะอะฆะ วันทามิ อาจาริโย จะมะหาเถโร เทวะปูชิโต โอมมะณีมาณี
ปัตเตฮุงหิริ โอมวัชระศัตระโฮม ( ๙ จบ )

(กราบแบบ นิ้วโป้งข้างซ้าย แตะ นิ้วนางข้างขวา แล้วกราบแบบคนจีน คำนับลงกับพื้น ๑๐๙ ครั้ง )



วิธีการเห็นผี
จากส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ คือ การภาวนาคาถา 4 คำ ซึ่ง 4 คำนั้น คือคำว่าอะไรบ้าง ไม่รู้สิ อิอิ...
แต่จากประสปการณ์ช่วงที่ผมบวช ผมเคยทำดังนี้ คือ
ภาวนา นะ มะ พะ ธะ มันทั้งวัน พยายามจับภาพพระให้ได้ทั้งวัน และเมื่อมีกิจนิมนต์หรือเวลาอยากจะเห็นอะไรบางอย่างเพื่อพิสูจน์ความสงสัยส่วนตัว จะอธิษฐานว่า "ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่วยขัดเกลาจิตลูกให้สะอาดแจ่มใส่ที่สุด ให้ปราศจากกิเลศเครื่องเศร้าหมองจิต ให้ลูกมีทิพย์จักขุญาณที่สว่างชัดเจนแจ่มใส เห็นทุกอย่างได้ตามความเป้นจริงด้วยเถิด สาธุ"
ผลที่ได้จากการทำแบบนี้คือ หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จ จะเห็นผีตายโหงตัวหนึ่งซึ่งก่อนตายเคยเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แกมาดักรอไหว้ผมทุกเช้าเลย ก่อนฉันมื้อเช้า เห็นเทพเทวดากับวิญญานจำนวนหนึ่ง มาคอยโมทนาบุญ เต็มศาลาไปหมด บางทีตอนฉันเพลก็เห็น เวลามีกิจนิมนต์ ฃ่วงชุมนุมเทวดา เห็นพรหมณ์ เทวดา ทยอยมากันเรื่อยๆ ที่มากกว่านั้น มีครั้งหนึ่ง พอขึ้นพาหุง เห็นชัดเจนมาก คือ บันไดแก้วพาดลงมาสว่างวาบตอนทำน้ำพระพุทธมนต์ เห็นจะๆเลย ลอยอยู่เหนือขันน้ำมันต์ ใส่ชะฎาซะด้วย และอื่นๆอีกมากมาย
คำอธิษฐาน
คำตั้งจิต อธิษฐาน ในวันนี้
ขอมุ่งมั่น ทำความดี สร้างกุศล
สร้างเป็นทุน หนุนนำไว้ ไม่อับจน
เพื่อหลุดพ้น เกิดแก่ และเจ็บตาย
ขออย่าให้ ข้าพเจ้า ใจเศร้าหมอง
อย่ามุ่งปอง เอาความ ตามให้ร้าย
อย่าทำตัว คิดเพียงแค่ เห็นแก่ได้
จงเข้าใจ พร้อมอภัย ให้เกียรติกัน
ขอให้มี ความรัก ความเมตตา
ปรารถนา ให้ผู้อื่น มีสุขสันต์
ช่วยผ่อนคลาย ทุกข์โศก วิโยคพลัน
ให้คิดแต่ ทางสร้างสรรค์ เท่านั้นพอ
ให้เป็นผู้ มีน้ำใจ และเข้มแข็ง
พร้อมเรี่ยวแรง ทำงาน ไม่ทดท้อ
ใช้ปัญญา แก้ปัญหา ใช่เฝ้ารอ
ไม่นั่งขอ พรสิ่งใด เพื่อได้มา
ขอให้เกิด ความคิด อันซื่อตรง
ไม่พะวง ในกิเลส และตัณหา
ระลึกถึง คุณธรรม ทุกเวลา
พร้อมบูชา รัตนตรัย ด้วยใจเทอญ

ป้ายกำกับ

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก